บทความนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย, Y, BL
หากไม่ชอบกรุณากดปิด
บทความนี้เป็นเพียงเรื่องแต่งซึ่งเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคล เหตุการณ์ หรือสถานที่จริงใด ๆ ทั้งสิ้น
Rating: PG
Category: M/M
Fandom: GOT7
Relationships: Im Jaebeom/Park Jinyoung
Characters: Im Jaebeom, Jackson Wang, Park Jinyoung
Buddy 2
Wirunyupha
พัคจินยองกำลังเคร่งเครียดกับการสรุปงาน วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการฝึกงานของเขาในบริษัทเล็ก ๆ แต่อบอุ่นแห่งนี้ เหนือสิ่งอื่นใด สิ่งที่จินยองนึกเสียดายที่สุดไม่ใช่การต้องลาจากบริษัทไป แต่คือการที่เขาอาจจะไม่มีโอกาสได้เจอเจ้านายของเขาอีก หากบริษัทไม่ยื่นข้อเสนอให้เขากลับมาทำงานเมื่อเขาเรียนจบ
และตอนนี้มันก็จวนเจียนจะสองทุ่มอยู่แล้ว เขายังไม่เสร็จงานดี และเจ้านายกำลังจะออกจากบริษัท ถ้าเขาไม่รีบออกไปดักเจอและสร้างโอกาสอันดีให้ชีวิตของตัวเองตอนนี้ ทุกอย่างจบสิ้นแน่นอน
จินยองแทบจะใช้ทักษะทั้งหมดที่ตัวเองมีจนกดส่งงานเข้าเมลหัวหน้าของเขาเป็นอย่างสุดท้าย จริง ๆ ตอนแรกพวกพี่ในทีมอยากมีงานเลี้ยงเลี้ยงส่งเขา แต่จินยองคิดว่ามันไม่จำเป็น และพูดตรง ๆ ว่าเขาคิดว่าไว้จัดงานเลี้ยงต้อนรับตอนเขากลับมาทำงานที่นี่ดีกว่า
มั่นหน้าเหลือเกิน — เสียงของแจ็คสันเพื่อนสนิทเหมือนลอยขึ้นมาตอนเขาส่งข้อความไปบอกเรื่องนี้ให้มันฟัง เออ ใช่ เขามั่นหน้า เขาเก่ง จะเถียงหรือไง
พัคจินยองปิดคอมพิวเตอร์ กวาดข้าวของใส่กระเป๋าเตรียมจะออกจากชั้นที่ตัวเองทำอยู่ หลังจากดูแล้วว่าปิดฟืนไฟครบ เขาก็ตรงไปที่ลิฟต์ อดเลิกคิ้วอย่างแปลกใจไม่ได้เมื่อเห็นว่าลิฟต์ที่เขาเรียกลงมาจากข้างบน
ข้างบนคือออฟฟิศของเจ้านายของเขา… หรือว่าจะยังไม่กลับ?
เสียงสัญญาณลิฟต์มาถึงดังขึ้นพร้อมกับลิฟต์ที่เปิดออก คนที่ยืนอยู่ด้านในคือคนที่จินยองคิดไว้จริง ๆ
“…คุณอิม”
“คุณพัค” อีกฝ่ายทักเขากลับ สีหน้าประหลาดใจ “เข้ามาสิครับ”
“เอ่อ…ครับ”
จินยองเดินตัวลีบเข้ามาในลิฟต์ เหลือบมองเห็นว่าพวกเขาต่างมุ่งหน้าไปที่ชั้นล่างสุดเหมือนกันก็ผละไปยืนอีกฝั่ง แทบจะฝังตัวเองเข้าไปในผนังลิฟต์ เขาไม่ได้กลัวคุณอิมแจบอมหรอก จริง ๆ แล้วก็ไม่เคยกลัวอะไรเลยด้วย ทุกครั้งที่นำเสนองานก็กล้าสบตากล้าเถียงด้วยเหตุผลตลอด แต่นั่นมันตอนที่อยู่กับคนเยอะ ๆ ไง
พอมาอยู่กันสองต่อสองแล้ว…
จินยองเบนสายตามองผนังลิฟต์จนแทบจะเห็นรอยด่างทุกจุดบนนั้น เพื่อสงบอาการใจเต้นรัวของตัวเองที่เริ่มกำเริบทุกครั้งที่เห็นหน้าหล่อ ๆ ของคุณเจ้านาย
ต้องให้เขาพูดอะไรอีกไหม
ใช่ เขาตกหลุมรักอิมแจบอม
“วันนี้กลับดึกจัง”
เสียงทุ้มนุ่มของคนเป็นหัวหน้าเอ่ยแทรกความเงียบขึ้นมา จินยองหันควับไปมอง ก่อนจะพยักหน้ารับ
“พอดีสรุปงานน่ะครับ วันสุดท้ายแล้ว”
“วันสุดท้าย?” อีกฝ่ายเสียงสูงขึ้น “แล้วไม่มีปาร์ตี้เลี้ยงส่งเหรอ”
เขาหัวเราะแห้ง ๆ “ก็งานเพิ่งเสร็จ เลยคิดว่าไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ต้องมีก็ได้”
“เหรอ” เจ้านายยักไหล่ ยกข้อมือข้างขวาขึ้นดูนาฬิกา อา เจ้านายถนัดซ้ายนี่นา “ผมว่างนะ ไปดื่มอะไรกันหน่อยไหม”
“…ครับ?”
จินยองไม่แน่ใจว่าตัวเองได้ยินถูกหรือเปล่า
“ผมว่าง ไปหาอะไรดื่มหน่อยไหม ใกล้ ๆ นี่ ไม่กินสามทุ่มหรอก”
ในใจจินยองลิงโลด แทบอยากกดโทรศัพท์ไปเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง แต่อีกใจก็คิดว่าเล่นตัวไว้ก่อนน่าจะดี
“…จะดีเหรอครับ”
“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย เจ้านายเลี้ยงลูกน้องสักมื้อไม่เห็นแปลก”
“แต่ว่า…”
“หรือจะให้ผมเลี้ยงในฐานะอื่น?”
คำถามชวนคิดพร้อมกับคิ้วเข้มที่เลิกขึ้นด้วยท่าทางยียวนทำเอาคนฟังใจกระตุกวูบ นึกอยากโผเข้าซบไหล่กว้าง ๆ นั่นเสียเลยแต่ทำได้แค่แสร้งทำเป็นเขิน ๆ แล้วพยักหน้ารับ
“งั้นผมไม่เกรงใจนะครับ”
ดังนั้นเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก พัคจินยองจึงได้รับเกียรติให้ขึ้นเมอร์ซิเดสเบนซ์คันงามของคุณเจ้านาย นั่งเคียงข้างกันมาเป็นตุ๊กตาหน้ารถจนถึงบาร์ที่อยู่ห่างจากบริษัทไม่ไกลมาก แต่ใกล้สถานีรถไฟ เผื่อฉุกเฉินเมากันทั้งคู่จะได้มีทางอื่นกลับ จินยองสงบสติอารมณ์เป็นลูกน้องที่ดี นั่งเงียบ ๆ ไม่พูดไม่จามองข้างทางตลอด แม้ในใจจะกำลังชูมือขึ้นฟ้าแล้วเต้นระบำอยู่ว่า ในที่สุดวันนี้ก็มาถึงโว้ย ก็ตาม
ตอนที่รถจอดและเขากำลังจะลงจากรถ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น จินยองขออนุญาตเจ้านายรับสายก่อนจะกรอกเสียงลงไป
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ? อะไรวะ ทำไมพูดสุภาพจัง”
ได้ยินเสียงก็รู้ว่าใคร จินยองกลอกตาแต่พยายามทำท่าทางให้ดูสุภาพเรียบร้อยที่สุดก่อนเอ่ยตอบ
“อยู่กับเจ้านายน่ะ มีอะไรหรือเปล่า”
“อยู่กับเจ้านาย…? ……ฮะ!!?”
ปลายสายโวยวายมาจนเขาต้องเผลอยกโทรศัพท์ออกจากหู หงุดหงิดอยากด่ามันจะตายแต่ทำไม่ได้ ต่อหน้าเจ้านายเขาต้องประพฤติดี เดี๋ยวเจ้านายตกใจ
“มาถึงขั้นนี้แล้วเหรอวะ!”
“เดี๋ยวค่อยคุยนะเพื่อน พอดีไม่สะดวก”
“อย่าให้พลาดนะมึง สู้ ๆ”
“…ขอบใจ”
เพื่อนรักวางสายไปแล้ว พร้อมกำลังใจที่ไม่รู้ว่าจะรับไว้ดีไหม จินยองเหลือบไปเห็นว่าเจ้านายยังยืนรอเขาอยู่จึงรีบตรงไปหาพร้อมรอยยิ้มสำนึกผิด
“ขอโทษที่ให้รอนะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอก เข้าไปด้วยกันเถอะ”
แล้วอีกฝ่ายก็เดินนำเขาไปถึงหน้าบาร์ แต่ตอนจะเดินเข้าเจ้านายกลับให้เขาเข้าไปก่อนพร้อมรุนหลังคล้ายโอบเอวเขาให้เข้าไปพร้อมกัน ท่าทางนั้นทำเอาจินยองงงไปหมด
เอ๊ะ?
คิดมากไป เขาอาจจะแค่เป็นสุภาพบุรุษมากก็ได้
คุณอิมแจบอมพาเขามานั่งตรงเคาท์เตอร์ สั่งเครื่องดื่มมาสองสามอย่างพร้อมกับของกินเล่นพอไม่ให้หิว และเอ่ยสำทับว่า ทั้งหมดนี่ตัวเองเลี้ยง
จินยองยิ้มรับ มองเจ้านายถอดสูทตัวนอกพาดไหล่ เห็นเพียงเสื้อเชิ้ตสีดำสนิทพอดีตัวที่ทำให้ช่วงอกและไหล่ที่กว้างอยู่แล้วดูน่ามองเข้าไปอีก จนเขาต้องเสหลบไปมองแก้วเครื่องดื่มของตน
“ทำไมคุณพัคถึงมาฝึกงานที่นี่เหรอครับ”
สรรพนามอีกฝ่ายดูห่างเหินจนจินยองอดไม่ได้จริง ๆ
“เรียกจินยองเฉย ๆ ก็ได้ครับ”
“จะดีเหรอครับ”
“ดีสิครับ” จินยองหัวเราะ “ผมไม่ใช่คู่ค้าของคุณอิมนะครับ ไม่ต้องเรียกสุภาพขนาดนี้ก็ได้”
“งั้นคุณเรียกชื่อผมเฉย ๆ ก็ได้”
“ครับ?”
จินยองกะพริบตาปริบ ๆ “…หมายถึง เรียกว่า พี่แจบอม เฉย ๆ ก็ได้เหรอครับ”
“พอได้ยินคุณเรียกแล้วรู้สึกดีกว่าที่คิดนะ”
ตูม… จิตใจจินยองระเบิดกระจุยกระจาย เริ่มไม่รู้ว่าที่หน้าร้อน ๆ อยู่นี่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรือคนตรงหน้าทำให้เขาเมาเพราะคำพูดกันแน่
“เอ่อ…” จินยองเกาแก้มแก้เก้อ “ผมมาทำที่นี่เพราะอาจารย์แนะนำมาน่ะครับ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอก”
“ดีแล้วล่ะครับ ออฟฟิศผมก็ไม่น้อยหน้าที่อื่นหรอกนะ”
“จริงครับ” เขายิ้มตอบ “มีแต่คนอยากมาทำที่นี่ แต่ผมไม่ยอมสละสิทธิ์สักที คนอื่นเลยอดกันหมด”
“ถ้าคุณสละสิทธิ์ เราก็ไม่ได้เจอกันสิครับ”
อีกแล้ว
มือที่กำลังจะหยิบเครื่องดื่มขึ้นจิบชะงักอีกรอบ จินยองเม้มริมฝีปาก ก่อนจะหันกายไปหาอีกฝ่ายแม้จะนั่งอยู่บนเก้าอี้สตูล
“คุณ… ไม่สิ พี่แจบอมครับ”
“ครับ?” อีกฝ่ายยกแก้วเครื่องดื่มค้างไว้ แล้วเลิกคิ้วมองเขา
“คือว่า…” จินยองกำลังตีกับตัวเองว่าควรจะพูดออกไปดีไหม แต่ถ้าไหน ๆ หลังจากนี้อาจจะไม่เจอกันอีกแล้ว เขาพูดออกไปน่าจะดีกว่า
“นี่พี่แจบอมไม่ได้กำลังจีบผมอยู่ใช่ไหมครับ”
“…”
เกิดความเงียบขึ้นมาทันที จินยองลอบถอนหายใจ เงียบอย่างนี้สงสัยจะล้อเล่นเสียมากกว่า ไม่น่าจะจริงจังอะไร
ดีแล้ว เขาจะได้ยั้งใจทัน
“ครับ”
“…ครับ?”
จู่ ๆ ช่วงของความเงียบที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนานก็ถูกทำลายลงด้วยเสียงของคนเป็นเจ้านาย ทำเอาจินยองต้องรับคำอย่างงงงัน
“หมายถึงอะไร…”
“ผมกำลังจีบคุณจินยองอยู่”
จินยองเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง
พระเจ้า เขาไม่ได้ฟังผิดใช่ไหม
“…จริงเหรอครับ”
“จริงสิ” อิมแจบอมหัวเราะ เห็นรอยยิ้มกว้างแบบที่ปกติไม่เคยเห็น จนตาเรียวคมนั่นราวกับจะเป็นขีด “ผมจริงจังนะ”
“…”
“แอบมองมาสักพักแล้ว แต่เพิ่งได้มาคุยกันจริง ๆ ก็วันนี้ เราไม่มีเวลากันทั้งคู่เลยนี่นา”
จินยองนึกย้อน แล้วก็อดยอมรับไม่ได้ ถึงพวกเขาจะทำงานที่เดียวกัน แต่เวลาเจอกันก็มีแค่ตอนประชุม เจ้านายทำงานอยู่ชั้นหนึ่ง เขาทำงานอยู่ชั้นหนึ่ง เดินสวนกันก็แทบจะไม่มี ข้าวก็กินกันคนละที่คนละเวลา การจะเจอกันนี่ยากยิ่งกว่าอะไร
แต่พออีกฝ่ายพูดออกมาตรง ๆ แล้วมันก็…
“หน้าแดงหมดแล้วนะ จินยอง”
อีกฝ่ายเรียกเขาด้วยเสียงนุ่ม ๆ ที่ทำเอาจินยองอยากโยนแก้วเครื่องดื่มทิ้งแล้วพุ่งจากเก้าอี้ไปกอดหมับ
และ… ให้ตายเถอะ เขาแค่คิดไม่ใช่หรือไง แต่ทำไมรู้สึกตัวอีกทีถึงได้ไปอยู่บนตักของอิมแจบอมแล้วล่ะวะ!!!!?
FIN (?)
20170924
เหตุการณ์ก่อน Buddy เรื่องหลักค่ะ ก่อนที่ปมนยองจะคบกัน และตอนนั้นจินยองยังไม่เรียนต่อ ยังไม่เจอมาร์ค 555
ชอบหรือไม่ยังไง คอมเมนต์ได้ ไม่ก็ติดแท็ก #wirunfic เหมือนเดิมนะคะ
เลิฟยู