[Trans-Article] The Cute Behind the Scene with Flower boy GOT7’s Mark – Supsapda Magazine – April 2018 issue

DO NOT TAKE OUT WITHOUT FULL CREDITS

MAY CONTAIN INACCURACIES.

THAI -> ENGLISH Translation: Wirunyupha

TEXT : Ploychompoo

Photo : Pannawat

mkbh

Let me hear your voice! Ahagase! Because this issue of Sudsapda, we got a popular boy, Mark from GOT7 to be on our cover and taking cool photoshoot! Not only fans who want to scream, even our staffs here were so happy to work with him, so we’d like to share the BTS.

The Cute Moment During Shooting with GOT7’s Mark

Let me whisper to you that this time Mark had tried to make time for his busy schedule to work with us in Thailand. The place we’d made the appointment was a beautiful and personalised studio. Mark came ahead of time with his (Stylist, costume, make-up) staffs from Korea. After greeting with Thai staffs, Mark suddenly went to do his make-up, during that time, the Korean stylist got some concept brief from ‘Than’ – Sudsapda’s stylist.

Mark hadn’t finished his make-up yet, but he came out again to greet other staffs and informally got some concept brief. After he got it, he went back to do his make-up.

Not too long, we’re ready to shoot. Starting with the shot next to the window with Prada clothes, Mark looked like a blue blood. After hearing a few briefs, he could do the compose our stylist wanted. When staff told him to be more playful, he can do more comfortable and fun pose. When the Korean stylist spoke the Thai word ‘Suay’ (beautiful), he even spoke it along. The staffs then told him the meaning, and it became a little Thai class.

mk01

With his professionalism, just a few shots could please the staffs, and he continually changed his clothes. The cute shot which makes fans scream is Mark eating a pizza, which actually the food that staffs ordered for lunch. But the stylist thought it would be fun to have a pizza on the scene, Mark then posed while bit the piece of pizza. We got a great shot with losing 2 pieces of pizza. This scene was probably his favourite one, because he was really hungry, really ate it, and it was really yummy.

MG_3522MG_3539

The next shot was for the magazine covering, and it was so funny during the time. After just 2-3 shots, the stylist liked it, that made our photograph feel confused. He then said ‘Jing-Lor?’ (really?) repeatedly, and Mark couldn’t bear himself, so he spoke ‘Jing-Lor?’ along. The stylist then let the photograph to shoot some more shots, to get the coolest look of Mark.

MG_3506MG_3493

It’s time for blowing the bubble gum shot, our photograph – Jae – told Mark to blow up the bubble gum til it exploded(?) and made his face mess, Mark got it. Jae told the stylist ‘one more time’, the stylist got it by saying ‘okay, maybe two more times’. Mark heard that and he suddenly said ‘three more times’ (x3). That made all staffs laugh so hard. Mark blew up the bubble gum many times but he never complained anything.

mk02

After this set, we were afraid that Mark would be hungry (yes, after eating the pizza) so we asked if he wanted to break. Mark asked the photograph “Are you hungry?”, then he said “It’s Okay, up to you.” After 3 times of the photograph’s Okay, we ended up continually shooting.

MG_3671MG_3687

Mark’s solo photoshoot in Thailand was smooth and fun, because Mark was so cheerfully and friendly. He could do anything we wanted. And he also could speak many Thai words following our staffs. He’d updated lot of Thai words and working seriously. How can we not like him, can we?

MG_3719

Don’t forget to follow Sudsapda via our Facebook page, Instagram, and Twitter. We still have a lot of pictures and videos which can certainly make you guys happy.

Source:

Sudsapda.  (2018).  Mark GOT7 หนุ่มหน้าหวานกับเบื้องหลังน่าร้าก-ก-ก.  Retrieved on April, 2, 2018, from http://sudsapda.com/men/92000.html

[แปล] สัมภาษณ์แจ็คสัน จากนิตยสาร GLASS Men

Source: @dramapotatoe (scan)

Trans: English -> Thai – WIRUNYUPHA

ห้ามรีโพส / ถ้าจำเป็นต้องนำบางส่วนออกไป กรุณาเครดิตกลับมาที่นี่ด้วยค่ะ (ไม่งั้นก็จ่ายค่าเรียนภาษาอังกฤษดิฉันมา)


 

GLASS Men Magazine, Spring 2018, UK

 

 

ยินดีต้อนรับ แจ็คสัน หวัง

ป๊อบสตาร์ที่โด่งดังที่สุดที่คุณอาจไม่เคยได้ยินชื่อ — จนถึงตอนนี้

DZCloSwVAAEh75F

ถ่ายภาพ SAAM Kim

สไตลิสต์ RAYMOND Chae

 

 

แจ็คสันหวังพร้อมจะงีบหลับแล้ว

“ไม่แน่หลังจากสัมภาษณ์นี้ ผมอาจจะพอมีเวลาสัก 2-3 ชั่วโมงเพื่อผ่อนคลาย” เขาเอ่ย ระหว่างที่กำลังเคี้ยวคิมบับ อาหารว่างของเกาหลี “ผมไม่ได้นอนมาสามวันแล้ว”

เป็นช่วงเวลาที่ยุ่งน่าดูสำหรับหนุ่มเชื้อสายฮ่องกงผู้เป็นนักร้องและแร็ปเปอร์เกาหลีอยู่ที่เกาหลี และดูเหมือนว่าจะยุ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงอายุเพียงแค่ 24 ปี เขาได้รวบรวมกองทัพแฟนคลับและชื่อเสียงในเอเชียในฐานะสมาชิกของวงไอดอลเกาหลี GOT7 และในฐานะของดาราดังในเกาหลีและจีน ผู้ติดตามกว่าเก้าล้านคนของเขาในอินสตาแกรมต่างคลั่งไคล้ในทุกอิริยาบถของเขา และบล็อกอีกจำนวนนับไม่ถ้วนที่ตามทุกอย่างของเขา แฟชั่น สุขภาพ แม้กระทั่งการเปลี่ยนทรงผม

หวังเป็นอดีตนักกีฬาฟันดาบมืออาชีพที่เคยได้รับการฝึกฝนเพื่อเข้าแข่งขันในโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2012 ที่ลอนดอน แต่แผนอาชีพของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงในช่วงสองปีก่อนที่การแข่งขันจะเริ่ม เมื่อ JYP Entertainmant บริษัทจากเกาหลีที่มีชื่อเสียงพบความสามารถของเขา และให้เขาเข้าร่วมออดิชั่นเป็นส่วนหนึ่งของวงนักร้องน้องใหม่ JYP ที่มีประวัติศาสตร์การสร้างไอดอลเอเชียที่ประสบความสำเร็จมากมายทั้ง Wonder Girls และ Rain ได้เซ็นสัญญากับหวังเป็นชิ้นส่วนใหม่ใน 7 ชิ้นส่วนสำคัญของวงป๊อบชายล้วน GOT7 สำหรับเด็กที่ทั้งชีวิตเป็นนักกีฬาจนกระทั่งถึงตอนนี้ ความคิดที่ว่าจะได้ไล่ตามฝันของตัวเองไม่ใช่เรื่องง่ายเอาเสียเลย

“พ่อของผมเป็นโค้ชนักกีฬาฟันดาบ ส่วนแม่เป็นโค้ชนักกีฬายิมนาสติก ผมเติบโตมาในครอบครัวนักกีฬา” หวังอธิบาย “แต่ท้ายที่สุดของวันนั้น ผมบอกตัวเอง ‘ทำไมไม่ลองพยายามดูสักหน่อยล่ะ ฉันไม่มีอะไรจะเสียนี่'”

จิตใจที่ไหลไปตามกระแสน้ำนี้เสริมให้หวังใช้ชีวิตในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้อย่างดี ในฐานะผู้ที่ได้เตรียมตัวเป็นนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จร่วมกับ GOT7 ขณะเดียวกันก็สร้างชื่อของตัวเองให้ปรากฏในรายการแข่งขันเรียลลิตี้ที่โด่งดังในเกาหลี แต่มันเป็นปณิธานและธรรมชาติที่ชื่นชอบการแข่งขันของเขา ที่จะทำให้ตัวของเขาพร้อมสำหรับบทใหม่ ๆ — ปะทุขึ้นมาด้วยตัวของเขาเอง

DZCloSvVMAAaiEx

ช่วงสองสามปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ศิลปินเกาหลีพยายามจะสร้างชื่อของตนออกนอกบ้านเกิด ขณะที่ความสำเร็จของ Gangnam Style ของ PSY กลายเป็นความแปลกใหม่ ความรุ่งเรืองของนักร้องเคป๊อบอย่าง CL และ BTS ในอเมริกา มอบเขตแดนใหม่ ๆ ให้ชาวเอเชียได้ตั้งเป้าหมาย และหน้าใหม่หลายคนก็เชื่อว่าตนเองสามารถตีตลาดนานาชาติได้

หวังที่ได้ฝ่าฟันมาถึงระดับนานาชาติก็คิดถึงเรื่องนี้ไว้แล้วเหมือนกัน

หวังเกิดในครอบครัวคนจีน เติบโตมาโดยพูดจีนกวางตุ้ง จีนเซี่ยงไฮ้ (ครอบครัวของแม่ของเขามาจากเซี่ยงไฮ้) จีนกลาง และภาษาอังกฤษซึ่งเป็นผลมาจากการเรียนที่ American International School ได้

เมื่อเขามาอยู่ที่โซลเพื่อร่วมกับ GOT7 หวังไม่ได้พูดภาษาเกาหลี แต่ก็เรียนรู้มันได้จากการใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับอีกหกคนในกลุ่ม (แม้ว่าหนึ่งในสมาชิกจะเป็นคนไทยและอีกคนเป็นไต้หวัน-อเมริกัน แต่กลุ่มก็แสดงเป็นภาษาเกาหลีเสียส่วนใหญ่)

“สมาชิกคนอื่น ๆ ใน GOT7 ช่วยเหลือผมมากในการเรียนรู้ภาษาเกาหลี และทักษะภาษาเกาหลีของผมก็พัฒนาขึ้นมากเมื่อได้ไปออกรายการเรียลลิตี้ต่าง ๆ” หวังกล่าว

ตั้งแต่การเดบิวต์ในปี 2014 GOT7 ประสบความสำเร็จอย่างมากในเอเชีย บัตรคอนเสิร์ตทัวร์ที่ขายหมดเกลี้ยง และอัลบัมที่ติดสามชาร์ตที่มีชื่อเสียง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงท่าทางตื่นเต้นจากการได้รับการยอมรับว่าเป็นคนดังในเกาหลี

“มันยากมาก” หวังเสริม “และกดดันมาก ชีวิตการเป็นเด็กฝึกมันสับสน มันจะง่ายที่จะโดนเปลี่ยนตัวออกไปเมื่อไหร่ก็ได้ [สำหรับวง]”

เขาหยุดไป ราวกับกำลังคิดถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังพูด ขณะสัมภาษณ์ ศิลปินเกาหลีจะมีผู้จัดการ และนักเขียนกดดันให้พูดตอบอย่างจริงใจ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ แต่สถานการณ์ตอนนี้มีเพียงหวังคนเดียว เขาไม่อยากจะก้าวข้ามมาสู่การท้าทายหรือต่อต้าน แต่ก็ยังคงกล่าวว่า “เรามีสอบทุกอาทิตย์ แล้วก็ต้องผ่านทุกการสอบ ผ่านการสอบ ผ่านการสอบ ถ้าไม่ผ่าน ก็ต้องออกไป มันยากกว่าการเป็นนักกีฬาเสียอีก

DZCloSwVwAEAelo

“ในอุตสาหกรรมบันเทิง 365 วัน 24 ชั่วโมง คุณทำงานทุกวัน ทุกวินาที” เขาพูด “อย่างน้อยในการแข่งขันกีฬา” เขาเสริมว่า “คุณยังต้องพักผ่อน หลังจากการแข่งขันหรือหลังจากฤดูกาลนั้น คุณก็ต้องพัก”

กีฬาสอนหวังให้รู้จักความมานะอดทน และเตรียมตัวเขาให้พร้อมสำหรับแผนงานใหม่ ๆ อัลบัมเดี่ยวที่เขาคาดว่าจะได้ปล่อยก่อนสิ้นปีนี้ ขณะที่เป็นนักกีฬาฟันดาบ หวังจะฟังเพลงแร็ปและฮิปฮ็อปเพื่อสร้างอารมณ์ก่อนการแข่ง เขากล่าวว่าอิทธิพลเหล่านั้นจะปรากฏชัดในเพลงใหม่ของเขา “มันเป็นเพลงฮิปฮ็อปที่มีกลิ่นอายของ R&B อยู่นิดหน่อย” เขากล่าว อ้างถึง Kendrick Lamar, Gucci Mane และ Logic ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขา รวมถึงไอดอลตลอดกาลของเขา “ไมเคิล แจ็คสัน”

ถึงแม้เขาจะยังคงเป็นส่วนสำคัญของ GOT7 ที่มีข่าวลือว่าวงจะปล่อยเพลงใหม่ในฤดูใบไม้ผลินี้ หวังยังคงกระตือรือร้นที่จะค้นหาเพลงของเขา ช่วงเวลาของเขา

“ใน GOT7” เขาอธิบาย “สไตล์เพลงของเราเป็นส่วนผสมระหว่างความคิดของคน 7 คน ถ้าเราเป็นสายรุ้ง ผมก็เป็นสีหนึ่งในนั้น”

“แต่เพลงของผมมีแค่ตัวผม” เขากล่าวต่อ “มันคือสิ่งที่ผมอยากทำจริง ๆ และคือสีของผมจริง ๆ”

“ผมคิดว่าการทำเพลงให้ดีเท่า ๆ กับการทำการแสดงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่จะตอบแทนแฟนคลับที่สนับสนุนและรักผม ดังนั้นผมจะทำให้ดีที่สุดทั้งในการทำเพลงและการฝึกซ้อม ผมตื่นเต้นมากที่จะได้เจอแฟน ๆ ทั่วโลกตลอดเวิลด์ทัวร์ของ GOT7 และกิจกรรมเดี่ยวของผมปีนี้ ผมตั้งตารอคอยเลยล่ะ!”

ซิงเกิลแรกของหวัง Papillon ปล่อยมาเมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา และได้ปรากฏใน Worldstar บล็อกฮิปฮ็อปที่(บางครั้งยังคงถกเถียงกันอยู่ว่า)มีอิทธิพลมาก หวังเป็นแร็ปเปอร์จีนคนแรกที่ได้ร่วมอยู่บนเว็บไซต์นี้ และความคิดเห็นต่าง ๆ ก็เปิดกว้างให้กับเพลงของเขาอย่างน่าประหลาดใจ ซิงเกิลที่สองที่เป็นสไตล์ Sino-Korean ชื่อ OKAY ได้รับความสนใจจากนิตยสาร Billboard

หวังได้สร้างสตูดิโอของตนเองที่บ้านในโซล และขณะนี้ก็อาศัยอยู่กับโปรดิวเซอร์ของเขา เพื่อจะทำอัลบัมของเขาให้เสร็จ ในช่วงที่ปรากฏตัวและมีสัญญาอยู่กับ GOT7 เขาเริ่มทำเพลงของตัวเอง และเขียนเพลงให้ตัวเอง (เพลงส่วนใหญ่ของวงเขียนให้พวกเขาทั้งวงร้อง) นอกจากการแร็ปและฮิปฮ็อป ช่วงนี้หวังยังฟังเพลงอิเล็กโทรนิกส์ของ DJ ต่าง ๆ และเพลงแดนซ์ เขาได้กล่าวถึง Knife Perry, Krewella และ Tom Size ว่าเป็นดีเจที่เขาชื่นชอบ

นอกจากเรื่องดนตรี หวังยังมองหาการเป็นนักแสดงด้วย แม้ว่าเขาจะปรากฏตัวในรายการของเกาหลีและจีน หวังกล่าวว่าทีมของเขาจะเตรียมตัวทดลองไปฮอลลีวู้ด ขณะที่หวังดูเหมาะจะเล่นโรแมนติกคอเมดี้ และละครวัยรุ่น หวังกล่าวว่าการออกโซโล่ช่วยส่งให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้นในอุตสาหกรรมนี้

เขามีหน้าที่รับผิดชอบเต็มไปหมด และการมุ่งสู่ตลาดนานาชาติก็เป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ถ้าจะมีใครที่อดทนต่อสิ่งนี้ได้ ก็คงเป็นชายหนุ่มที่เติบโตมากับการประลองฝีมือต่อสู้ด้วยอาวุธความยาวสามฟุตบนสนามการแข่งกว้างสองเมตร

“การฟันดาบช่วยหลายต่อหลายอย่างในชีวิตของผม” หวังกล่าว “มันสอนให้ผมตั้งใจและมีปณิธานที่จะประสบความสำเร็จ เมื่อผมอุทิศตัวเองให้กับสิ่งใดแล้ว” เขาพูด “ผมจะไปให้สุดทาง และจะไม่ยอมแพ้”

โดย Tim Chan

 

 

[Trans] สัมภาษณ์ Mark GOT7 – GRAZIA Feb 2018

บทสัมภาษณ์มาร์ค นิตยสาร GRAZIA (กุมภาพันธ์ 2018)

I GOT YOU

Cr: EN – haetbitmark ; TH – 2vxjsmt

นอกจากภาพลักษณ์มากมายที่คุณได้เผยออกมาในปี 2017 ดูเหมือนว่าคุณจะแสดงให้เห็นตัวตนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเป็นแบบถ่ายภาพด้วย คุณคิดว่าตัวคุณเองเปล่งประกายออกมาที่สุดตอนไหน

มาร์ค: ผมถ่ายแบบเดี่ยวเยอะมากในปีที่ผ่านมา แต่ทุกครั้งที่ภาพพวกนั้นปล่อยออกมา ผมก็จะรู้สึกแบบนั้นแหละ ผมคิดว่ามันออกมาเป็นแบบที่ผมชอบ ใช่ไหม? (หัวเราะ) แม้แต่ตอนที่อยู่บนเวทีและผมแสดง Martial Arts ด้วยตัวเอง ทุกคนจดจ้องมาที่ผม ใช่ไหมนะ? ผมรู้สึกกดดัน แต่ความรู้สึกแบบนี้มันต่างออกไป

เป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างจะพอใจ

มาร์ค: เพราะทุกคนแค่ยืนแล้วก็มองมาที่ผม รู้สึกแปลก ๆ ที่ได้รับความสนใจน่ะครับ

อุตสาหกรรมบันเทิงเป็นสถานที่ที่มีการแข่งขันมากเมื่อเทียบกับที่อื่น รู้สึกกดดันที่ต้องทำอะไรใหม่ ๆ หรือเปล่า

มาร์ค: แน่นอนว่าต้องมีครับ แต่ผมคิดว่าบนเวที อย่างในงานประกาศรางวัล GOT7 ต้องแสดงสิ่งที่แตกต่างจากวงอื่น ๆ อย่างมาก เราทำ Martial Arts เราทำในสิ่งที่วงอื่นทำไม่ได้ แน่นอนว่าพวกเราต้องทำสิ่งใหม่ ๆ แต่ผมก็คิดว่าเราก็ต้องทำสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ให้ดีด้วย

ถ้าจะต้องเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ คิดว่าควรทำอะไร

มาร์ค: อืม… นอกจากที่เมมเบอร์คนอื่นทำ มีเมมเบอร์ที่แสดงละคร ผมเองก็อยากจะลองแสดงละครดูสักครั้งถ้ามีโอกาสน่ะครับ

คิดว่าคงไม่เป็นไรที่จะพูดว่า สิ่งที่มาร์คพยายามจะทดลองใหม่ ๆ อยู่เสมอคือทรงผมของคุณ คุณทำสีผมและทรงผมหลากหลายแบบเลย มีทรงผมแบบไหนที่ยังอยากทำอีกไหม

มาร์ค: แน่นอนครับ! อยากลองทำผมยาวบ้าง ที่ยาวกว่าตอนนี้นิดหน่อย ยาวพอ ๆ กับทรงผมของยองแจตอนนี้ ไม่อย่างนั้น ก็ทำทรงผมที่นิยมกันในสหรัฐฯ หรือไม่ก็ย้อมผมสี Navy

พูดถึงเรื่องนี้ แบมแบมเป็นคนที่ GOT7 โหวตให้ว่าแต่งตัวดีที่สุด แต่มาร์คก็เป็นเมมเบอร์ที่สนใจเรื่องแฟชั่นเหมือนกัน คิดยังไงกับผลโหวตนี้

มาร์ค: ฮ่า ๆ ผมรู้สึกอยู่นิดหน่อยเหมือนกันครับ ผมสนใจเรื่องแฟชั่นมากแต่ไม่คิดว่าจะต้องแต่งตัวให้ดีกว่าคนอื่นนะ ผมแค่แต่งตัวแบบที่เข้ากับผมและผมก็อยากใส่

จริง ๆ แล้วการแต่งตัวของแบมแบมกับมาร์คแตกต่างกันมากเลย อย่างที่ไม่มีนัยยะสำคัญใดๆ ในการจัดอันดับ

มาร์ค: นั่นแหละครับ เพราะการแต่งตัวของพวกเราต่างกันมาก ก็เลยไม่สำคัญ

คิดยังไงกับนิสัยของ GOT7

มาร์ค: เสียงดังวุ่นวายไปทุกที่เลยครับ ฮ่า ๆๆ

เป็นวงที่เต็มไปด้วยพลังมากกว่าใครเลยใช่ไหม

มาร์ค: ใช่ครับ! ผมคิดว่าเป็นแบบนั้นเลย

คุณคิดว่ามีอะไรที่ GOT7 ในตอนนี้จำเป็นต้องมี

มาร์ค: อืม… ผมคิดว่าพวกเราต้องเพิ่มทักษะของตัวเองครับ พวกเราเองก็คิดว่าพวกเรายังขาดทักษะต่าง ๆ กันอยู่

เมมเบอร์คนอื่นก็พูดเรื่องคล้าย ๆ กันนี้ พูดว่าต้องทำงานหนักขึ้นทั้งเรื่องร้อง เรื่องเต้น ดูเหมือนว่าทุกคนจะมุ่งมั่นกันมากเลย

มาร์ค: จริงเหรอครับ เพราะพอเป็นเรื่องของทักษะของพวกเราเอง เราต้องพยายามกันต่อไปครับ

อยากจะพัฒนาแง่มุมไหนให้ดีขึ้น

มาร์ค: บอกได้จากรายการวาไรตี้เลยนะครับ เวลาที่มีแค่พวกเรา มันจะสนุกมากแบบบ้าคลั่งไปเลยครับ แต่เวลาที่พวกเราถึงจุดนั้น มันก็ยังกระอักกระอ่วนแล้วก็ยากที่จะเปิดใจ (ทำตัวผ่อนคลาย) อยู่ดี จำเป็นที่จะต้องพัฒนามุมนี้อยู่บ้างครับ

นี่กำลังคิดถึงเรื่องการไปออกรายการวาไรตี้หรือเปล่า

มาร์ค: ไม่ใช่นะ! (หัวเราะ) ผมยังไม่มีความมั่นใจแต่ผมต้องเปิดใจ ผ่อนคลายกับมัน แล้วก็เป็นอิสระกว่านี้ครับ

ระหว่างเส้นทางที่ปลอดภัย แต่ไม่มีอะไรน่าสนใจ ทุกคนแนะนำให้คุณ กับเส้นทางที่คุณอยากจะเลือกเดินไปแต่เต็มไปด้วยอันตราย คุณจะเลือกเส้นทางไหน

มาร์ค: ผมจะเลือกทางที่ตัวเองอยากเดินแม้มันจะอันตรายครับ

ถึงแม้ว่าคุณอาจจะรู้สึกผิดที่เลือกมันเหรอ

มาร์ค: ครับ แม้จะเป็นอย่างนั้น ก็จะเลือกมันอยู่ดี

เป็นพวกชอบเอาตัวเองไปเสี่ยงในชีวิตจริงหรือเปล่า

มาร์ค: ไม่นะ ผมไม่คิดว่าผมชอบเอาตัวเองไปเสี่ยงกับอะไรหรอก ฮ่า ๆ

ถ้าอย่างนั้น นี่คือคำอธิษฐาน/ความหวังสำหรับสิ่งที่อยากจะทำในอนาคตหรือเปล่า

มาร์ค: ถึงผมจะอยากทำแบบนั้น แต่เพราะภาพลักษณ์ของไอดอลเกาหลี ผมต้องระมัดระวังครับ ตอนอยู่ที่สหรัฐฯ ผมคงเลือกทำแบบนั้น แต่ในเกาหลี สุดท้ายผมคงเลือกทางที่ปลอดภัยกว่าอยู่ดี

มีอะไรที่อยากทำแน่ ๆ ถึงแม้ว่าต้องพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่อันตรายไหม อาจจะเป็นสิ่งที่อยากทำสักครั้งในอนาคตก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งอยากทำในตอนนี้

มาร์ค: ผมชอบกีฬาเอ็กซ์สตรีมอย่างพวกสกายไดฟว์วิ่งกับบันจี้จัมป์ ปกติสกายไดฟว์วิ่งต้องกระโดดพร้อมไกด์ครับ แต่พอผมอยากลองกระโดดเองคนเดียวสักครั้ง

อะไรที่ทำให้สนุกเมื่อเร็ว ๆ นี้

มาร์ค: เกม ‘Battle Ground’ ครับ ผมมักจะเล่นคนเดียว แล้วมันก็เยี่ยมมากเวลาเล่นคนเดียวครับ

มีคำอะไรที่อยากให้อยู่กับชื่อ GOT7 ในปีนี้ไหม

มาร์ค: อืม… อยากให้เป็นคำว่า “เสมอ” ครับ อยู่กับพวกเราเสมอ GOT7 ที่อยู่ด้วยกันตลอดไป

[OC Weekly] GOT7 ครองบัลลังก์ K-Pop ที่ KCON

แปลเป็นภาษาไทย โดย WIRUNYUPHA

ห้ามนำออกไปโดยไม่มีเครดิตผู้แปล


GOT7 ครองบัลลังก์ K-Pop ที่ KCON

โดย 

 


GOT7 ที่พรมแดงงาน KCON (ภาพจาก CJ E&M)

 

ด้วยทะเลสีเขียวที่ส่องสว่างไปทั่ว Staples Center และเสียงของแฟนคลับที่ตะโกนเรียกสมาชิกแต่ละคนดังกึกก้อง GOT7 ได้เริ่มต้นช่วงท้ายของ KCON เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ด้วยเพลงใหม่ล่าสุดของพวกเขา “Never Ever” เมื่อ 2 ปีก่อน ทั้ง 7 คนได้ขึ้นแสดงเปิดในงานเดียวกันนี้ แต่ตอนนี้พวกเขากลับมาในฐานะตัวหลักของงานในค่ำคืนนี้พร้อมกับแฟน ๆ ที่ต่างแสดงพลังสนับสนุนพวกเขา

KCON เป็นงานจัดแสดงวัฒนธรรมเกาหลีประจำปีที่เริ่มตั้งแต่ปี 2012 ณ Irvine Meadows Ampitheatre งานแสดงนี้จัดแสดงเกี่ยวกับคลื่นวัฒนธรรมเกาหลี ทั้ง K-Beauty, K-Food, K-Pop และ K-Drama ทั้งผลิตภัณฑ์และแบรนด์สินค้าต่าง ๆ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา งานนี้ก็กลายเป็นงานใหญ่ที่มีผู้ร่วมงามเต็ม Los Angeles Convention Center ทั้งยังมีคอนเสิร์ตวง K-Pop ยอดนิยมติดต่อกัน 2 คืนที่ Staples Center ปีนี้ปีเดียวพบว่ามีผู้เข้าชมงานถึง 85,000 คนตลอดระยะเวลา 3 วันของงาน นับเป็นจำนวนผู้เข้าชมที่มากที่สุด ตัวหลักของ KCON ในปีนี้ คือวง K-Pop สมาชิก 13 คน SEVENTEEN ในการแสดงคืนวันเสาร์ และ วงยอดนิยมของ LA GOT7 ในคืนวันอาทิตย์

GOT7 ประกอบด้วย JB (แจบอม อิม), แจ็คสัน หวัง, แบมแบม (กันต์พิมุก ภูวกุล), จินยอง พัค, ยูกยอม คิม, ยองแจ ชเว และ มาร์ค ต้วน พวกเขาเดบิวต์ในปี 2014 ภายใต้สังกัดของค่ายเพลงที่ใหญ่ที่สุดค่ายหนึ่งในเกาหลีใต้ JYP Entertainment พวกเขากลายมาเป็น 1 ในวง K-Pop ที่มีได้รับความนิยมมากในอเมริกา ส่วนหนึ่งเพราะภูมิหลังที่เป็นพหุวัฒนธรรมของสมาชิกในวง แจ็คสันที่มาจากฮ่องกง แบมแบมที่มาจากไทย และชาวไต้หวัน-อเมริกัน มาร์ค จากอาร์คาเดีย แคลิฟอร์เนีย

“ผมคิดว่าแฟนคลับชอบพวกเราเพราะเราพูดคุยกับพวกเขามากกว่า” จินยองกล่าว เมื่อให้สัมภาษณ์กับล่ามของ Weekly ก่อนเริ่มการแสดงของพวกเขาที่ KCON “ถึงแม้พวกเราจะพูดภาษาอังกฤษไม่เก่ง เราก็มีสมาชิกที่พูดอังกฤษ และคนที่เหลือก็พยายามอย่างมากที่จะสื่อสารกับแฟนคลับด้วยการจดจำคำศัพท์และประโยคที่พวกเขาอยากจะพูด”

ความแตกต่างทางวัฒนธรรมอาจเป็นปัญหาสำหรับหลายคน แต่ไม่ใช่กับ GOT7 “เวลาพวกเราเดินทางไปประเทศอื่น เช่น จีน ไทย หรือแม้แต่ที่นี่ ที่สหรัฐฯ เรามีสมาชิกที่พูดภาษานั้น ๆ” JB อธิบายกับล่าม “ทั้งที่สัญชาติเราต่างกัน แต่ผมกลับรู้สึกว่าคนเราคิดและใช้ชีวิตคล้ายกันทุกที่เลย ผมไม่เห็นความแตกต่างในสมาชิกของพวกเราเลย”

การแสดงต่อหน้าผู้ชมจำนวนมากที่ Staples Center (ภาพจาก CJ E&M)

หลังจากการแนะนำตัวและหยอกล้อกันของสมาชิก 3 คนที่เล่นเป็นคนมาชมคอนเสิร์ต แจ็คสันหยิบไมค์ไปและแนะนำเพลงที่สองของพวกเขาในค่ำคืนนี้ ซึ่งเป็นเหมือนบทกวีมอบให้แก่แฟน ๆ ที่รัก “แน่นอนครับ มันเป็นเพลงพิเศษ JB เป็นคนแต่ง เกี่ยวกับว่า เราอยากเจอพวกคุณทั้งวันเลย “ทุก ๆ วัน” (Everyday (매일 – เพลงของ GOT7 จากอัลบัม Mad Winter Edition (2015))

อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ GOT7 ได้รับความนิยมอย่างมากในสหรัฐฯ คือการที่พวกเขามีทัวร์การแสดงในประเทศถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกคือทัวร์คอนเสิร์ต Fly ในปี 2016 และใกล้ชิดกับแฟน ๆ มากขึ้นด้วยแฟนมีตติ้งเมื่อต้นปี แต่ทั้งที่ได้พบเจอแฟน ๆ ในเมืองต่าง ๆ ในสหรัฐฯ สักครั้งหลังจากเดบิวต์แล้ว พวกเขายังคงถ่อมตน — และดูจะไม่ตระหนักถึง — ความจริงที่ว่าวงของพวกเขามีชื่อเสียงมากแค่ไหน

“พวกเราเป็นตัวหลักของการแสดง แต่ถ้าคุณเห็นรายชื่อวงที่ขึ้นแสดงแล้วก็จะเห็นว่า พวกเขาต่างก็เป็นวงใหม่ ๆ ในตอนนี้ แล้วพวกเราก็แก่สุด เป็นวงรุ่นพี่ (ซอนเบ)” มาร์คกล่าว “ผมไม่คิดว่ามันเกี่ยวกับเรื่องความนิยมหรืออะไรนะ แต่เป็นเพราะปีที่พวกเราได้ออกแสดงมากกว่า เทียบกับวงที่เพิ่งออกแสดงได้ไม่กี่เดือน แต่รู้สึกดีจริง ๆ ครับที่ได้กลับมาแสดงและกลับมาบ้านเกิดที่สหรัฐฯ เราเพิ่งไปแสดงที่ไทยกับฮ่องกงมาด้วย เลยรู้สึกดีมาก ๆ เลย”


น่าจะเรียกว่า Hi-Five Hundred (ภาพจาก CJ E&M)

ในเวลาเดียวกัน ที่สถานที่จัดงานแสดง บัตรสำหรับเข้าร่วม Hi-Five ก่อนงานแสดงของพวกเขาราคาพุ่งขึ้นจาก 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่ใช่เพื่อถ่ายรูปหรือลายเซ็น แต่เพื่อได้ Hi-Five

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลที่ตอกย้ำความมีชื่อเสียงของ GOT7 ในอเมริกา จากการสำรวจที่ไม่ได้เปิดเผยของ Korean Creative Content Agency (องค์กรของรัฐบาลเกาหลีใต้ที่รวบรวมและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมเกาหลีในสหรัฐอเมริกา) GOT7 ได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 3 ในอเมริการองจาก EXO และ BTS และอยู่อันดับก่อนหน้าวงรุ่นพี่อย่าง Big Bang และ SHINee ทั้ง EXO และ BTS ได้จัดอารีน่าทัวร์ไปในปีนี้ ขณะที่ Big Bang จัดอารีน่าทัวร์ไปแล้ว 2 ครั้งตั้งแต่ปี 2012 ในสหรัฐฯ

เหมือนวง K-Pop ส่วนใหญ่ เพลงของ GOT7 เปลี่ยนไปทุกครั้งที่ปล่อยออกมาใหม่ แต่เสน่ห์ของพวกเขาก็ยังปรากฏอยู่ในความสามารถต่าง ๆ เพื่อทำให้การแสดงรูปแบบใหม่ประสบผลดียิ่งขึ้น จากเด็กหนุ่มขี้เล่นข้างบ้านใน “Just Right” สู่ภาพลักษณ์แบบแฟนเก่าผู้เกรี้ยวกราดใน “If You Do” เพลงของพวกเขา แม้จะมีความเป็นเพลง Pop อยู่เสมอ แต่ก็แต่งแต้มด้วยสีสันของ R&B เหตุผลหนึ่งเพราะ JB เป็นคนเขียนและแต่งเพลงหลายเพลงของพวกเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่ได้ทำตั้งแต่แรกเริ่ม “เมื่อเวลาผ่านไป เราก็เติบโตขึ้น ระดับของความชอบและอารมณ์ของอัลบัมเราก็เติบโตขึ้นด้วย” เขาอธิบาย “เราจะมีส่วนร่วมแล้วก็ใส่เรื่องราวของเรามากขึ้นในอัลบัม”

“Let’s fly agian, fly agian, fly agian, I got this right. อย่ากังวลไปเลยกับเรื่องราวในวันพรุ่งนี้ วันนี้ฉันจะ Hard Carry ให้กับเธอ” จินยองร้อนก่อนท่อน Pre-Chorus ของเพลงก่อนหน้านี้ของพวกเขา ‘Hard carry’ คำนี้มาจากคำสแลงของภาษาเกาหลี หมายถึงคน — ในที่นี้หมายถึง GOT7 — ที่จะทำหน้าที่เป็นผู้นำของกลุ่มและโอบอุ้มคนที่เหลือไว้ — แฟนคลับของพวกเขา ในความหมายนี้ วงได้บอกแฟน ๆ ของพวกเขาว่าพวกเขาจะทำงานให้หนักขึ้นและเป็นวงที่ดีที่สุดของแฟน ๆ และพวกเขาก็ได้แสดงออกผ่านการแสดงที่เต็มไปด้วยอารมณ์รุนแรง การร้องสด (ซึ่งหากพูดกันจริง ๆ แล้วถือว่าหาได้ยากยิ่งในกลุ่มไอดอล K-Pop) ถ่ายทอดทุกสิ่งผ่านท่าเต้นอันซับซ้อน และไม่กลัวที่จะเผยมุมตลก ๆ ออกมา

ขณะที่ GOT7 อาจจะคิดว่าพวกเขายังต้องเดินไปบนเส้นทางอีกยาวไกลกว่าจะได้มีบทบาทสำคัญใน Hallyu ทว่า KCON ก็ได้พิสูจน์แล้วว่า อย่างน้อย LA ก็คือบ้านของพวกเขา

Source: http://www.ocweekly.com/music/got7-got-the-k-pop-coronation-they-deserved-at-k-con-8378575

[Trans] #GOT7 #Bambam in ‘The Cloud’ – Backstage Side of ‘Bambam-Kanpimook Bhuwakul’

Translation into English by WIRUNYUPHA

Do not take out without credits.

May include some inaccuracies.


 

 

Talk of the Cloud

Got to be you

An exclusive backstage interview with the one and only Thai member of GOT7

By Phatthareeya Phuaphongsakorn

Photo by Maneenuch Bunreung

 

 

The calm before the storm.

I think of the aphorism, ‘the calm before the storm,’ when talking about the interview with a boy who living as a singer in Korea. Out of the white room is so silent as if the breath can be heard. The amount of fans are waiting for the appearance of Bambam-Kanpimook Bhuwakul, the member of GOT7, in the est Cola Bambam One Man Show Event. The atmosphere of excitement, waiting and happiness are full and mixed in front of the stage. The streaming of love has started many hours before, and will be exploded more when the superstar goes out.

And I am in the room with a few questions, few minutes which I can talk to him exclusively, and the excitement like I’m going to hit the test.

When the red hair boy comes in and sits in front of me, then I understand.

That’s it, the storm has come.

interview-talk-bambam-5

The Beginning of Knowing the Real Life

Bambam’s life graph is different from usual people. While many children are studying in their secondary school, 13-year-old-Kanpimook left Thailand to become a singer in Korea. Learning the language, the singing, the dances, practicing life out of the classroom, until he debuted as one of the members of GOT7 in 2014. To be in work life since he was so young has to pay lot of things. The lost of teenage experiences becomes fame and money, which lot of people dream to.

“I have both regret thing and good thing, the regret thing is I don’t have my childhood, I don’t have any close friends in Thailand. It was the time that people would be friend with their high school friend and then went to the university together, but I was a trainee in Korea. However, it was good to work since I was young, if I was in a wrong way, I could change. I still had time to make my decision.

“The best thing happened to me after my debut was I can change my family life to be more comfortable, before the debut, my house was so small, the roof was made from zinc and it always leaked when it was raining. To change the environment, change my house, is the best thing.”

This year, Bambam will be 20, he is going to be in adult age, while the approval of GOT7 is increasing continually. Their song begins to be the 1st winner and gets many rewards from many year end programs. Also the boy band just finished their concert tour in Thailand, in Nakhon Ratchasima, Chiang Mai, Bangkok, and Phuket. GOT7 is the first Korean boy group that has their show all over the country. So the one and only Thai member can have a chance to come back to work in his hometown more often. He also has his solo schedule here like what is going on right now. It is so obvious how the boy has grown up physically and mentally.

“I’m not sure that I’m an adult now but I’ve grown up. I started to know what the real life is. I think I know it faster than many people in the same age as me, who probably are studying in their 2nd year in the university (sophomore) and never be in a ‘real’ society. I don’t have my school society but I have met a lot of people, and I have learned to prepare myself for the future, where I am right now, and if I want to be in that place, how I should do.”

interview-talk-bambam-2interview-talk-bambam-4

Eccentric Learning

Singing, rapping, dancing, Korean, and English, these are probably in JYP practice room, but the work experience is unteachable. The life under the light has been a good lesson for Kanpimook to grow up by leaps and bounds

“I may not learn much from books but I got lot of thing in eccentric learning, either making friend, or behaving. I’m a young man but living like an adult. I started to learn how to do in some situation, how to do when meeting some big man, when working, what my responsibility is, what I must be careful, what time should be my privacy, and how to manage my free time.

“This circle is so high competition, to survive is not easy. When I was young, I just did what they wanted me to do. But now if I have some different thinking, I’m going to try what I believe in. It may works or not but when I’ve learned, I started to know how to play the game. Suppose there’s a show we have to go. A person who doesn’t know how to play a game will not prepare himself, he won’t know what the show is, how to prepare himself, what he can talk, and he will not know what the audiences want from him. I’m not a 100% expert but I begin to know what many people want from me. What they want to hear from me, what they are curious about me. So I will talk what they want to know better than what I want to tell.”

So what we are seeing now is real or not? I’m curious. If the expression of idols on the screen or the stage is just a role, in the moment that the expect of the fans or Ahgase squeezing in, is some parts of Kanpimook erased?

“No. I’m not fake or lying. If there’s something they want to know, I tell them. If I don’t have anything to say, I say ‘it’s nothing,’ It’s not that pressure. If people start to know what I really am, start to know my real side, I should say some truths, not only what they want to know.”

interview-talk-bambam-3interview-talk-bambam-1

Icon VS Ordinary People

After working for many years, Bambam can see his goal he wants to reach, he knows that he wants to continue going down this way. Nevertheless, idols or any superstars are just human. Bambam honestly says that sometime he wants to be just an ordinary guy.

“Sometimes I want to end everything and back to my ordinary life. There’s a day I think that if I’m just some one, I will not face this kind of thing. But it’s hard to explain about my dream. To say it in easiest way, I just want to be an inspiration for other people. Many people say that they want to be like P’Bambam. So I want to be an icon. Not only for those who want to work like me, but to be in this kind of job, it has to sacrifice many things. I sacrificed my freedom to work what I favor, sacrificed my childhood. So I want to be the inspiration in working, being patient. But I don’t behave like a superstar, I’m still what I am. Be chilled and be crazy on the stage, go to the market when I come back home. (laugh)”

The expression of the professional singer’s eyes is so sincere and joyous. In a few minutes, Bambam will go and hand out the happiness to the people who love him. The red hair guy meets my eyes and says:

interview-talk-bambam-6

“I want people to know the real me, they don’t need to see me as anything, just Bambam. If they don’t like, it’s fine. That’s better than to be fake to make people like you. I’m not fancy that kind of things. I’m just a chilled person, I don’t take anything that serious. I’m not good in expressing my sad emotion. If someone tell me like ‘Bambam, cry out.’ Oh… I’ve never been successful in pretending to be sad. I can’t cry. It has to be too sad so I can cry out.”

The sound of the fans who are waiting for Bambam slightly louds from outside the room. The time of our conversation ends up with Kanpimook’s smile. He stands up, ready to hold people’s feelings like the professional. I keep my question about Bambam’s tear in my mind while I’m walking out through a lot of people who are waiting for him with hope and happiness.

It’s time for the storm.

interview-talk-bambam-10.jpg

Sources

  • ตัวตนหลังเวที GOT7 ของ ‘แบมแบม-กันต์พิมุกต์ ภูวกุล’ – https://readthecloud.co/talk-8/

 

[Naver] มาร์ค GOT7 “ตอนที่ไปป่า อยากกินแกงกิมจิกับต๊อกบ๊กกีจังเลย”

Eng: twitter.com/igot7_MarkP
Tha: Wirunyupha (twitter.com/wrxjsmt)
Source: http://m.entertain.naver.com/read?oid=076&aid=0003082235

มาร์ค สมาชิกจาก GOT7 วงไอดอลชายที่กำลังได้รับความนิยม แสดงเซนส์ทางแฟชั่นผ่านนิตยสาร Dazed นิตยสารเกี่ยวกับวัฒนธรรมและแฟชั่นสัญชาติอังกฤษ ในฉบับเดือนพฤษภาคม

18057016_851565148329732_7265527985330816228_n

GOT7 ได้สร้างจุดยืนที่แข็งแกร่งในฐานะวงไอดอลโดยได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากมินิอัลบัมล่าสุด มาร์ค หนี่งในสมาชิกทั้ง 7 คนของ GOT7 ที่เป็นที่รู้กันว่าสนใจด้านแฟชั่น ได้เผยรสนิยมการแต่งตัวแบบฉบับของเขาเองในการถ่ายภาพเดี่ยวครั้งแรก และได้รับความสนใจอย่างมากจากการเผยมุมมองที่จะเป็นแฟชันนิสต้ารุ่นใหม่

ในบทสัมภาษณ์ที่เกิดขึ้นด้วยกันกับการถ่ายทำ เมื่อถามว่าเขาให้ความสนใจกับอะไรมากที่สุดเมื่อแต่งตัวด้วยปกติ เขากล่าวว่า “ผมชอบเสื้อผ้าที่ใส่แล้วสะดวกสบายที่สุด เนื่องจากผมต้องบินไป ๆ มา ๆ บ่อยเลยพยายามหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่ใส่แล้วไม่สบายตัว ผมชอบแต่งตัวแบบที่สบาย ๆ และก็มีสไตล์”

และเมื่อถามถึงตอนที่เขาถ่ายทำในรายการ Law of the Jungle ที่นิวซีแลนด์ เขาเล่าว่า “ตอนอยู่ในป่า เพราะคุณต้องหาอาหารอยู่ตลอดเวลา แล้วก็ต้องมาสร้างบ้านอีก ผมว่าผมยุ่งวุ่นวายจนลืมนึกถึงมือถือกับอินเทอร์เน็ตไปเลย ผมอยากกลับโซลเร็ว ๆ แล้วก็กินแกงกิมจิกับต๊อกบ๊กกี” แล้วก็ยิ้มอย่างสดใส

18011167_851565134996400_2996361465501011643_n

ท้ายที่สุด เมื่อถามว่าเขารู้สึกอย่างไรกับคอนเสิร์ตที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนมิถุนายนที่อารีน่าที่ญี่ปุ่น เขาตอบว่า “ก่อนหน้านี้ที่เราเคยแสดงเปิดคอนเสิร์ตให้พี่ ๆ 2PM เราคิดกันว่าเมื่อไหร่เราจะสามารถจัดคอนเสิร์ตที่นี่ได้นะ และเพราะในที่สุดเราก็จะได้จัดคอนเสิร์ตบนเวทีนั้นแล้ว มันก็ตื้นตันมาก ๆ เลยครับ มีความสุขมาก ผมรู้สึกขอบคุณจริง ๆ” และท่าทางตื่นเต้น

มาร์ค GOT7 ที่ปีนี้อายุ 25 และในวงที่กำลังจะก้าวสู่ปีที่ 5 หลังจากเดบิวต์ กำลังเติบโตขึ้นจากการแสดงผลตอบรับที่ดีในหลายชาร์ตเพลง พบกับภาพถ่ายแฟชั่นของมาร์คและบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ในนิตยสาร Dazed ฉบับเดือนพฤษภาคม

[TH-TRANS] Who’s That – #GOT7 FLIGHT LOG : #TURBULENCE

Source: Melon, dragonshine via colorcodelyrics
Translate from Korea to English by: igot7_marKP
Translate from English to Thai by: WIRUNYUPHA

Lyrics/작사: 진혜 (Jam Factory)
Composer/작곡: Ruwanga Samath, Oscar Doniz,
Josiah Rosen, Carlos Battey, Steven Battey
Arranger/편곡: Ruwanga Samath

โค้ดสี (ขอใส่หน่อย เพลงนี้)

JB | Mark | Jackson | Jinyoung | Youngjae | Bambam | Yugyeom

Damn 날 그 애와 비교하니 
굳이 날 겪어야 아니 
네 눈에는 내가 덜 차니 글쎄 
나 없이 지내는 하루 
그리 아무렇지도 않은 날은 
아닐 거라 확신해

บ้าเอ๊ย นี่เธอเปรียบเทียบฉันกับเขาเหรอ
นี่ต้องดื้อผ่านไปให้ได้เลยหรือไง
ในสายตาของเธอฉันมันไม่น่าพอใจหรือไง
วันของเธอที่ไม่มีฉันน่ะ
ฉันมั่นใจว่าเป็นวันที่ไม่สำคัญหรอก

들어봐 혹시 너도 누가 알어 
매일 듣던 내 목소리 
이미 빠져서 안 듣곤 잠이 안 올지 
아마 수백 번 네가 말하던
이상형이 날지 
꼭 두고 봐줘 everyday

ฟังนะ ใครจะรู้
เธออาจจะตกหลุมเสียงของฉันที่เธอได้ยินทุกวันก็ได้
หรือถ้าไม่ได้ยินมันก็เธอจะนอนไม่หลับ

หรือไม่คนในสเป็กที่เธอบอกฉันเป็นร้อยครั้งนั่นก็คือฉันเอง
มองมาที่ฉันสิ everyday

Who’s that 너 뭐니 뭐니 해도 네 곁엔 
내가 젤 나아 딴 남자완 그만 재 
왜 슬그머니 눈칠보는데 
네 맘을 너만 모르니
Who’s that 너 미리미리 남자 정리해 
보란 듯이 연애라는 게 왔으니 
나 심각하니 친군 그만해 
내 맘을 이제 알겠니

นั่นใครกัน ไม่ว่ายังไงฉันก็เป็นคนที่ดีที่สุดข้าง ๆ เธอ
หยุดเปรียบเทียบฉันกับคนอื่นได้แล้ว
ทำไมต้องกังวลด้วยว่าคนอื่นเขาจะคิดยังไง
ทำไมถึงเป็นคนเดียวที่ไม่เข้าใจหัวใจตัวเอง
นั่นใครกัน ดูแลแต่ผู้ชายคนอื่นจนเสียเวลา
พอสิ่งที่เรียกว่าความสัมพันธ์มาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
ฉันจริงจังนะ ดังนั้นเลิกเป็นเพื่อนกันเถอะ
ตอนนี้ก็รู้แล้วนี่ว่าฉันคิดยังไง

Hey

Nanana nananana nananana
Nanana oh
Nanana nananana nananana
Nanana

나 아무리 생각해봐도 
그 시점은 알 수가 없어 
한순간에 달라 보였어 그새
훌쩍 자란 예쁜 네 얼굴 
넘어가기에는 아까운 
나만 느끼는 매력이지

ไม่ว่าฉันจะคิดถึงเรื่องนี้ยังไง
ฉันก็บอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่

จู่ ๆ เธอก็ดูแปลกไป
ใบหน้าน่ารักของเธอเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
มันมีค่าเกินกว่าจะแค่มองผ่านไป
มันเป็นจุดน่าสนใจที่มีฉันแค่คนเดียวที่รู้สึก

나봐봐 혹시 너도 그거 알아
불쑥 내가 다가가면 
깜짝 놀라서 네 볼은 발그레지고 
아마 하루에도 열두 번씩 
내 생각도 하지 
왜 너 그거 부정하는데

มองฉันสิ ไม่ว่ายังไงก็เถอะ เธอก็รู้นี่
เมื่อจู่ ๆ ฉันก็เข้าไปใกล้เธอ
แล้วเธอก็หน้าแดงขึ้นมาเพราะตกใจ
เธอน่าจะคิดถึงฉันอีกแล้วล่ะสิ สัก 12 ครั้งต่อวัน
ทำไมถึงปฏิเสธเสียล่ะ

Who’s that 너 뭐니 뭐니 해도 네 곁엔 
내가 젤 나아 딴 남자완 그만 재 
왜 슬그머니 눈칠보는데 
네 맘을 너만 모르니
Who’s that 너 미리미리 남자 정리해 
보란 듯이 연애라는 게 왔으니 
나 심각하니 친군 그만해 
내 맘을 이제 알겠니 

นั่นใครกัน ไม่ว่ายังไงฉันก็เป็นคนที่ดีที่สุดข้าง ๆ เธอ
หยุดเปรียบเทียบฉันกับคนอื่นได้แล้ว
ทำไมต้องกังวลด้วยว่าคนอื่นเขาจะคิดยังไง
ทำไมถึงเป็นคนเดียวที่ไม่เข้าใจหัวใจตัวเอง
นั่นใครกัน ดูแลแต่ผู้ชายคนอื่นจนเสียเวลา
พอสิ่งที่เรียกว่าความสัมพันธ์มาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว
ฉันจริงจังนะ ดังนั้นเลิกเป็นเพื่อนกันเถอะ
ตอนนี้ก็รู้แล้วนี่ว่าฉันคิดยังไง

Hey

Nanana nananana nananana
Nanana oh
Nanana nananana nananana
Nanana

Ha ha 나 이래 봬도 million dollar 
남자 중에 최고지 두말함 입 아프지 
If you want 센스와 매너를 갖춘남 
여길 좀 보지 딱 너의 boy지 
두근대는 감정 1단계의 chapter 
혼란스런 감정은 2단계의 chapter 
살금살금 내 어깰 잡고 뒤를 따라 
너도 보면 알겠지 나는 뭔가 달라

Haha ถึงจะดูไม่เหมือน แต่ฉันน่ะ million dollar เชียวนะ
ฉันน่ะดีที่สุดในผู้ชายทั้งหมดเลยล่ะ ไม่ต้องให้พูดเป็นครั้งที่สองหรอก
ถ้าเธอต้องการผู้ชายที่มีทั้ง sense และ manner ล่ะก็
มองมานี่สิ ฉันเป็นของเธอนะ
ใจเต้นนั่นเป็นตอนแรก
สับสนเป็นตอนที่สอง
จับไหล่ฉันเงียบ ๆ แล้วตามฉันมา
แล้วเธอจะรู้ว่าฉันไม่เหมือนเดิม

Who’s that 너 뭐니 뭐니 해도 네 곁엔
내가 젤 나아 딴 남자완 그만 재
왜 슬그머니 눈칠보는데
네 맘을 너만 모르니
Who’s that 너 많이많이 나를 생각해
터질 듯한 맘 알아주면 안되니
니 옆에 서서 걷고 싶은데
무슨 말인지 알겠니

นั่นใครกัน ไม่ว่ายังไงฉันก็เป็นคนที่ดีที่สุดข้าง ๆ เธอ
หยุดเปรียบเทียบฉันกับคนอื่นได้แล้ว
ทำไมต้องกังวลด้วยว่าคนอื่นเขาจะคิดยังไง
ทำไมถึงเป็นคนเดียวที่ไม่เข้าใจหัวใจตัวเอง
นั่นใครกัน ฉันคิดถึงเธอบ่อยครั้ง
ไม่เห็นหรือไงว่าใจของฉันจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว
ฉันอยากจะเดินข้าง ๆ เธอ
ไม่รู้เหรอว่านั่นหมายความยังไง

Hey

Nanana nananana nananana
Nanana oh
Nanana nananana nananana
Nanana

Nanana nananana nananana
Nanana
Nanana nananana nananana
Nanana

[TH-Trans] Sick (아파) – #GOT7 FLIGHT LOG : #TURBULENCE

Source: Melon, dragonshine via colorcodelyrics
Translate from Korea to English by: igot7_marKP
Translate from English to Thai by: WIRUNYUPHA

Lyrics/작사: Ars (영재), Mark, Jackson Wang
Composer/작곡: Damon Sharpe, Carlos Battey, Gregg Pagani
Arranger/편곡: Damon Sharpe, Carlos Battey, Gregg Pagani

Yeah, woo baby, no hey

너에게 들을 수 없는 말
내 옆에만 있어 달란
니 말을 아직 기억해
상처 난 내 가슴은
왜 널 찾는 건지

คำที่ฉันไม่อาจได้ยินจากเธอ
“อยู่เคียงข้างฉันเถอะ”
ฉันยังจำคำพูดของเธอได้
ทำไมหัวใจที่มีบาดแผลถึงยังคงมองหาเธอกัน

넌 이제 나를 떠나 뭘 하든지
내가 생각나기를
나 없이 보내야 할 니 하루가
나만큼 슬프기를

เธอเพิ่งทิ้งฉันไป
ไม่ว่าเธอจะทำอะไร
หวังว่าจะทำให้เธอนึกถึงฉันบ้าง
วันเวลาที่เธอไม่มีฉัน
ฉันหวังว่าจะทำให้เธอเสียใจได้เท่ากับที่ฉันเป็น

왜 나만 혼자 아파
이렇게 온종일 너만 또 그리는지

ทำไมถึงเป็นฉันคนเดียวที่เจ็บปวด
ฉันยังคงวาดภาพถึงแต่เธอทั้งวันแบบนี้

깊이 파고 들어와
너의 그 행동 말투 하나
모든 게 다 또렷해져
바보 같은 내 가슴은
왜 자꾸 이러는 건지
내가 왜 이리 더 아픈지
도저히 난 잘 모르겠어
이해를 못 하는 표정이
날 아프게 해 난 너무 아파

มันทิ่มแทงเข้าไปในตัวฉันลึกขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ละคำพูดและการกระทำของเธอ
ทุกอย่างมันชัดเจนขึ้น
ทำไมถึงได้โง่แบบนี้นะ
ฉันไม่รู้เลย ว่าทำไมถึงเจ็บขนาดนี้
สีหน้าเธอที่แสดงออกว่าไม่เข้าใจ
ทำร้ายฉันให้เจ็บปวดจริง ๆ

너 없이 내 하룰 보내는 시간들이
너무 아파
너와 나 어떻게 이렇게 되었는지
너무 아파

วันเวลาที่ไม่มีเธอ
มันเจ็บปวดเหลือเกิน
ทำไมฉันกับเธอถึงกลายเป็นแบบนี้
เจ็บปวดเหลือเกิน

너와 했던 모든 것들이 보여 난
내가 없이 행복해하는 널 보면
한쪽 가슴이 저려
지금의 그 사람과
난 불행하길 바래 더

ฉันเห็นทุกอย่างที่ฉันทำกับเธอ
ถ้าเห็นเธอมีความสุขโดยไม่มีฉัน
หัวใจของฉันก็เจ็บปวด
กับคนที่เธออยู่ด้วยตอนนี้
ฉันขอให้เธอไม่มีความสุขมากขึ้นไปอีก

넌 이제 나를 떠나 뭘 하든지
내가 생각나기를
나 없이 보내야 할 니 하루가
나만큼 슬프기를

เธอเพิ่งทิ้งฉันไป
ไม่ว่าเธอจะทำอะไร
หวังว่าจะทำให้เธอนึกถึงฉันบ้าง
วันเวลาที่เธอไม่มีฉัน
ฉันหวังว่าจะทำให้เธอเสียใจได้เท่ากับที่ฉันเป็น

왜 나만 혼자 아파
이렇게 온종일 너만 또 그리는지

ทำไมถึงเป็นฉันคนเดียวที่เจ็บปวด
ฉันยังคงวาดภาพถึงแต่เธอทั้งวันแบบนี้

깊이 파고 들어와
너의 그 행동 말투 하나
모든 게 다 또렷해져
바보 같은 내 가슴은
왜 자꾸 이러는 건지
내가 왜 이리 더 아픈지
도저히 난 잘 모르겠어
이해를 못 하는 표정이
날 아프게 해 난 너무 아파

มันทิ่มแทงเข้าไปในตัวฉันลึกขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ละคำพูดและการกระทำของเธอ
ทุกอย่างมันชัดเจนขึ้น
ทำไมถึงได้โง่แบบนี้นะ
ฉันไม่รู้เลย ว่าทำไมถึงเจ็บขนาดนี้
สีหน้าเธอที่แสดงออกว่าไม่เข้าใจ
ทำร้ายฉันให้เจ็บปวดจริง ๆ

너 없이 내 하룰 보내는 시간들이
너무 아파
너와 나 어떻게 이렇게 되었는지
너무 아파

วันเวลาที่ไม่มีเธอ
มันเจ็บปวดเหลือเกิน
ทำไมฉันกับเธอถึงกลายเป็นแบบนี้
เจ็บปวดเหลือเกิน

넌 이제 나를 떠나 뭘 하든지

เธอเพิ่งทิ้งฉันไป

내가 생각나기를
너 없이 걷는 내가
너무 초라해 보여

ไม่ว่าเธอจะทำอะไร
หวังว่าจะทำให้เธอนึกถึงฉันบ้าง
รู้สึกขาดบางสิ่งบางอย่างไปเมื่อเดินไปไหนโดยไม่มีเธอ

왜 나만 혼자 아파
이렇게 온종일 너만 또 사랑하는지

ทำไมถึงเป็นฉันคนเดียวที่เจ็บปวด
ฉันยังรักแต่เธอเหมือนเดิม

Uh yeah, come on!
하루하루 지나도 내 가슴이 또 아프고
근데 너는 아무렇지도 않지
함께 즐긴 순간들에 웃고 싸울 때는 울고
이런 추억들이 이젠 생각도 안 나겠지
이제 돌아갈 수 없는 길 갈수록
힘이 빠져 앞이 안 보이는 길
냉정과 열정 사이 정답이 뭘까
가슴이 머리보다 앞서는 걸 왤까

แต่ละวันผ่านไป หัวใจของฉันก็ยังคงเจ็บปวด
แต่เธอไม่รู้สึกอะไรเลบ
ช่วงเวลาที่เรามีควาสุขด้วยกัน ที่เรายิ้มแย้มให้กัน
ตอนที่เราทะเลาะกัน ตอนที่เราร้องไห้
ความทรงจำเหล่านี้ เธอคงจำไม่ได้หรอก
ยิ่งฉันไปตามเส้นทางที่ไม่มันวันหันกลับมาได้ไกลเท่าไหร่
ฉันยิ่งสูญเสียความเข้มแข็ง
ถนนที่ฉันไม่เห็นว่าข้างหน้ามีอะไร
อะไรคือคำตอบที่ถูกต้องกันแน่ระหว่าง
หัวใจอันเย็นชาและความปรารถนา
ทำไมหัวใจถึงอยู่เหนือความคิดของฉันนะ

깊이 파고 들어와
너의 그 행동 말투 하나
모든 게 다 또렷해져
바보 같은 내 가슴은
왜 자꾸 이러는 건지
내가 왜 이리 더 아픈지
도저히 난 잘 모르겠어
이해를 못 하는 표정이
날 아프게 해 난 너무 아파

มันทิ่มแทงเข้าไปในตัวฉันลึกขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ละคำพูดและการกระทำของเธอ
ทุกอย่างมันชัดเจนขึ้น
ทำไมถึงได้โง่แบบนี้นะ
ฉันไม่รู้เลย ว่าทำไมถึงเจ็บขนาดนี้
สีหน้าเธอที่แสดงออกว่าไม่เข้าใจ
ทำร้ายฉันให้เจ็บปวดจริง ๆ

너 없이 내 하룰 보내는 시간들이
너무 아파 (너무 아파)
너와 나 어떻게 이렇게 되었는지
너무 아파

วันเวลาที่ไม่มีเธอ
มันเจ็บปวดเหลือเกิน (เจ็บปวดเหลือเกิน)
ทำไมฉันกับเธอถึงกลายเป็นแบบนี้
เจ็บปวดเหลือเกิน

이건 네게 하는 말이야
니가 이 노랠 듣길

นี่คือสิ่งที่ฉันบอกกับเธอ
หวังว่าจะได้ยินเพลงนี้นะ

[TH-Trans] If (만약에) – #GOT7 FLIGHT LOG : #TURBULENCE

Source: Melon, dragonshine via colorcodelyrics
Translate from Korea to English by: igot7_marKP
Translate from English to Thai by: WIRUNYUPHA

Lyrics/작사: Primeboi, 뱀뱀, Mark
Composer/작곡: Primeboi, Cash Note
Arranger/편곡: Primeboi

만약에 우리가 만날 수만 있다면
만약에 내가 니 손잡을 수 있다면
너에게로 갈 때면 자꾸 겁이 나는걸
만약에 우리 사랑할 수 있다면

เป็นไปได้ไหมที่เราจะเพิ่งพบกัน
เป็นไปได้ไหมที่ฉันจะสามารถจับมือเธอได้
ฉันยังหวาดกลัวทุกครั้งที่เข้าหาเธอ
เป็นไปได้ไหมที่เราจะรักกัน

Q.No.1 우리가 친구여서일까
No.2 내가 좀 쑥맥인 건가
아니면 니가 너무 예뻐서 일 수도
다른 놈들 시원하게 차이는 걸
지켜봤어 줄곧
너무나도 시원하지
근데 그게 내가 되는 걸
상상하니 돋네 소름
만약에 니가 내게 온다면
매일 웃게 해주고 싶어 지금보다

คำถามแรก เราเคยเป็นเพื่อนกันเหรอ?
คำถามที่สอง หรือว่าฉันโง่?
หรือเป็นไปได้ว่าเพราะเธอน่ารักเกินไป
ฉันเห็นผู้ชายคนอื่นโดนเธอทิ้งไปอย่างไม่ไยดี
ดูแล้วก็เพลินดี
แต่พอคิดว่าถ้าฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
ฉันคงชิลล์ ๆ
ไม่ว่าจะโอกาสไหนที่เธอเข้ามาหาฉัน
ฉันก็อยากจะทำให้เธอยิ้มกว้างขึ้นทุกวัน ๆ มากกว่าตอนนี้อีก

막 겁이 나서 baby
그동안 하지 못한 말들이
너무 많은걸 기다렸어
막 겁이 나서 baby
그동안 숨겨 왔어
이렇게나마 말할게
Baby I’m falling in love

เพราะฉันกลัวไงที่รัก
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันบอกเธอไม่ได้จนถึงตอนนี้
ฉันรอคอยมาตลอด
เพราะฉันกลัวไงที่รัก
ฉันเก็บซ่อนมันไว้ตลอด
ฉันจะพูดมันออกไปแม้จะเป็นแบบนี้ก็ตาม
Baby I’m falling in love

만약에 우리가 만날 수만 있다면
만약에 내가 니 손잡을 수 있다면
너에게로 갈 때면 자꾸 겁이 나는걸
만약에 우리 사랑할 수 있다면

เป็นไปได้ไหมที่เราจะเพิ่งพบกัน
เป็นไปได้ไหมที่ฉันจะสามารถจับมือเธอได้
ฉันยังหวาดกลัวทุกครั้งที่เข้าหาเธอ
เป็นไปได้ไหมที่เราจะรักกัน

그래 난 언제나 너의 뒤에서 뒤에서
하지 못한 말들이 너무나 많은걸
몇 번이나 티를 내도
전혀 넌 눈치채지 못하고
입은 마르는데 자꾸 애는 태우고
아직도 모르고 나를 보며
웃는 넌 정말 예뻐

ใช่ ไม่ว่าตอนไหนฉันก็จะอยู่ข้างหลังเธอเสมอ ข้างหลังเธอ
มีหลายสิ่งที่ฉันบอกเธอไม่ได้
ไม่ว่ากี่ครั้งที่ฉันบอกใบ้ไป
เธอก็ไม่เคยสังเกตเห็นเลย
ริมฝีปากของฉันแห้งผากแต่เธอก็ยังทำให้ฉันไม่แน่ใจ*
เธอยังไม่รู้
และเมื่อเธอมองตรงมาที่ฉันพร้อมกับแย้มยิ้ม
เธอช่างงดงามเหลือเกิน

막 겁이 나서 baby
그동안 하지 못한 말들이
너무 많은걸 기다렸어
막 겁이 나서 baby
그동안 숨겨 왔어
이렇게나마 말할게
Baby I’m falling in love

เพราะฉันกลัวไงที่รัก
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันบอกเธอไม่ได้จนถึงตอนนี้
ฉันรอคอยมาตลอด
เพราะฉันกลัวไงที่รัก
ฉันเก็บซ่อนมันไว้ตลอด
ฉันจะพูดมันออกไปแม้จะเป็นแบบนี้ก็ตาม
Baby I’m falling in love

만약에 우리가 만날 수만 있다면
만약에 내가 니 손잡을 수 있다면
너에게로 갈 때면 자꾸 겁이 나는걸
만약에 우리 사랑할 수 있다면

เป็นไปได้ไหมที่เราจะเพิ่งพบกัน
เป็นไปได้ไหมที่ฉันจะสามารถจับมือเธอได้
ฉันยังหวาดกลัวทุกครั้งที่เข้าหาเธอ
เป็นไปได้ไหมที่เราจะรักกัน

만약에 우리 함께 할 수 있다면
이 쉬운 말도 입이 잘 안 떨어지는걸 baby
내 빈자리를 채워줄 사람이 너라면
모든 게 완벽할 텐데 그게 너라면
언제나 행복하게 해줄게
널 멀리서 몰래 지켜 볼 수 밖에 없었지만
이젠 너의 미소까지 지켜주고 싶어
만약에 우리 사랑할 수 있다면

เป็นไปได้ไหมที่เราจะอยู่ด้วยกัน
เพียงแค่เรื่องง่าย ๆ แบบนี้ มันก็อยากเหลือเกินที่จะเอ่ยออกมา baby
ถ้าเธอคือคนที่เติมเต็มความว่างเปล่าให้กับฉัน
คงไม่มีสิ่งไหนสมบูรณ์แบบหรอก ถ้าเป็นเธอ
ฉันจะทำให้เธอมีความสุขเสมอ
สิ่งเดียวที่ฉันทำให้เธอได้คือมองเธอจากที่ไกล ๆ
แต่ตอนนี้ฉันอยากจะปกป้องเธอแม้กระทั่งรอยยิ้มนั้น
เป็นไปได้ไหมที่เราจะรักกัน

만약에 우리가 만날 수만 있다면
만약에 내가 니 손 잡을 수 있다면
너에게로 갈 때면 자꾸 겁이 나는걸
만약에 우리 사랑할 수 있다면

เป็นไปได้ไหมที่เราจะเพิ่งพบกัน
เป็นไปได้ไหมที่ฉันจะสามารถจับมือเธอได้
ฉันยังหวาดกลัวทุกครั้งที่เข้าหาเธอ
เป็นไปได้ไหมที่เราจะรักกัน

만약에 만약에 만약에 만약에
만약에 우리 사랑할 수 있다면

จะเป็นไปได้ไหม จะเป็นไปได้ไหม จะเป็นไปได้ไหม
จะเป็นไปได้ไหมที่เราจะรักกัน

 

(* อังกฤษที่แปลมาใช้คำว่า dangle ซึ่งหาคำที่เหมาะ ๆ ไม่ได้เลยค่ะ มันแปลว่า แกว่ง หลวม นี่เลยแปล ๆ ไปทางนัยว่า ไม่มั่นคงงี้ ;-;)

ฟังครั้งแรก… ร้องไห้จ้า ขนาดไม่รู้ความหมาย นอนร้องไห้ตอนห้าทุ่มค่า 55555555555555555555

 

[TH-Trans] Skyway – GOT7 FLIGHT LOG : TURBULENCE

Source: Melon, dragonshine via colorcodelyrics
Translate from Korea to English by: igot7_marKP
Translate from English to Thai by: WIRUNYUPHA

Lyrics/작사: earattack, Defsoul (JB)
Composer/작곡: earattack, 리시, Defsoul (JB), 변방의 킥소리
Arranger/편곡: earattack, 리시, 변방의 킥소리

시동을 걸어 Let’s do it my way
빨리 달려 Just do it my way
높이 날아 skyway
I will take you to skyway

ขับเคลื่อนด้วยพลัง ทำแบบที่เราอยากทำเถอะ
วิ่งไปให้เร็วเท่าที่เราอยากทำ
บินให้สูงขึ้นไป skyway
ฉันจะพาเธอไปถึง skyway

Hey seatbelt on tight baby
올라타 얼른 올라타
스냅백은 뒤로 날아가지 않게
나 속도위반은 안 해
올라타 얼른 올라타
넌 안심하고 올라 타도돼

เฮ้ คาดเข็มขัดแน่น ๆ สิที่รัก
ขึ้นมาสิ เร็วเข้า กระโดดขึ้นมา
หมุนสแน็ปแบ็กของเธอไปข้างหลังสิ มันจะได้ไม่ลอยหลุดไปไหน
ฉันจะไม่ให้มันเร็วไปกว่าที่ควรหรอก
ขึ้นมาสิ เร็วเข้า กระโดดขึ้นมา
เธอจะผ่อนคลายขึ้นนะ ขึ้นมาสิ

끝을 모르는 저기 높은 skyway
그 위로 널 데려갈래
아무나 따라가지마 이젠
우리 차에만 올라타 약속해
톨게이트 지나갈 때처럼
니가 내 옆에 하이패스
We won’t stop now we won’t stop now
I will take you to skyway

skyway ที่สูงและไม่อาจรับรู้ถึงปลายทางได้นั้น
ฉันจะพาเธอขึ้นไป
ตอนนี้อย่าตามใครไปนะ
แค่ขึ้นมาบนรถของพวกเรา สัญญากับฉันสิ
เหมือนเวลาผ่านโทลเกต (ด่านเก็บเงิน)
เธอก็จะ high-pass ฉัน
ตอนนี้เราจะยังไม่หยุดหรอก
ฉันจะพาเธอไปถึง skyway

내 심장은 널 태운 skyway
오늘 밤은 달빛 너머로
Let me hear u say Ayyy
내 심장은 널 태운 skyway
오늘 밤은 달빛 너머로
Let me hear u say Ayyy

หัวใจของฉันคือ skyway ที่มีเธออยู่บนนั้น
เหนือแสงจันทร์ของค่ำคืนนี้
ให้ฉันได้ยินเสียงเธอเถอะ
หัวใจของฉันคือ skyway ที่มีเธออยู่บนนั้น
เหนือแสงจันทร์ของค่ำคืนนี้
ให้ฉันได้ยินเสียงเธอเถอะ

SKYWAY
SKYWAY
SKYWAY

내 손을 깍지 껴 그게 너의 seatbelt
눈을 감고 한 단계 위 level up that
내 팔과 다리는 오프로드용 사륜구동
거친 도로의 승차감 백배
가슴에 귀를 대 육기통 심장 소리
안전 제일 편하게 모실게 for real
기내방송 없어
But I’m a microphone checker
So sit tight you better

มือของเธอที่ประสานกับฉันคือ seatbelt ของเธอ
หลับตาซะแล้วขึ้นไปให้สูงขึ้น level up that
แขนขาของฉันมีไว้สำหรับ off road โฟร์วีลส์ (ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ)
ขับบนถนนขรุขระมาเป็นร้อยครั้ง
ฟังเสียงหัวใจของฉันสิ มันคือเสียงของรถหกสูบ
ปลอดภัยไว้ก่อน ยังไงฉันก็จะพาเธอขับไปอย่างปลอดภัย for real
โดยไม่ต้องมีประกาศฉุกเฉินเลย
แต่ฉันเป็นคนเช็กไมโครโฟน
ดังนั้นนั่งชิดเธอนี่แหละดีกว่า

걱정하지 마 높은 고소공포
위험하지 않아 지구 밖이라도
내 심장은 대기권 밖의 산소통
내 심장은 대기권 밖의 산소통
온몸을 태워서라도 너를 데려갈래
한계는 없어 내 자체가 바로 한계
저 높이 더 높이 go with me no limit now
I will take you to skyway

อย่างกังวลเลย ความสูงน่ะไม่ต้องกลัวหรอก
มันไม่อันตรายหรอกถึงจะอยู่นอกโลกก็ตาม
หัวใจของฉันคือถังอ็อกซิเจนที่อยู่ในอวกาศ
หัวใจของฉันคือถังอ็อกซิเจนที่อยู่ในอวกาศ
ถึงจะต้องแผดเผาทั้งร่างกายของตนเอง ฉันก็อยากจะพาเธอไป
ไม่มีขีดจำกัดหรอก เพราะฉันคือขีดจำกันนั้น
นั่นแหละ สูง สูงขึ้นไปอีก go with me no limit now
ฉันจะพาเธอไปถึง skyway

내 심장은 널 태운 skyway
오늘 밤은 달빛 너머로
Let me hear u say Ayyy
내 심장은 널 태운 skyway
오늘 밤은 달빛 너머로
Let me hear u say Ayyy

หัวใจของฉันคือ skyway ที่มีเธออยู่บนนั้น
เหนือแสงจันทร์ของค่ำคืนนี้
ให้ฉันได้ยินเสียงเธอเถอะ
หัวใจของฉันคือ skyway ที่มีเธออยู่บนนั้น
เหนือแสงจันทร์ของค่ำคืนนี้
ให้ฉันได้ยินเสียงเธอเถอะ

달빛은 마치 Spotlight
컴컴한 어둠 속에서
길을 환히 비추네
Oh girl 별빛은 네비게이션
미로를 따라 ride with me ride with me
나를 꽉 잡아 fly with me fly with me

แสงจันทร์นั้นราวกับ Spotlight
นำพาแสงสว่างสู่ความมืดมิด
แสงดาวเป็นเครื่องนำทาง
ตามเขาวงกตไป มากับฉันสิ
ยึดฉันไว้ให้แน่น บินไปกับฉันสิ

내 심장은 널 태운 skyway
오늘 밤은 달빛 너머로
Let me hear u say Ayyy
내 심장은 널 태운 skyway
오늘 밤은 달빛 너머로
Let me hear u say Ayyy

หัวใจของฉันคือ skyway ที่มีเธออยู่บนนั้น
เหนือแสงจันทร์ของค่ำคืนนี้
ให้ฉันได้ยินเสียงเธอเถอะ
หัวใจของฉันคือ skyway ที่มีเธออยู่บนนั้น
เหนือแสงจันทร์ของค่ำคืนนี้
ให้ฉันได้ยินเสียงเธอเถอะ

SKYWAY
SKYWAY
SKYWAY
SKYWAY