#wirunfic – A Good Thing In Crime (Jinyoung/JB)

บทความนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย, Y, BL
หากไม่ชอบกรุณากดปิด

บทความนี้เป็นเพียงเรื่องแต่งซึ่งเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคล เหตุการณ์ หรือสถานที่จริงใด ๆ ทั้งสิ้น

Rating: PG
Category: M/M
Fandom: GOT7
Relationships: Jinyoung/JB
Note: บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม NiorB Semi Monthly หัวข้อ 5th – Suspense,mystery and crime

 

A Good Thing In Crime

Wirunyupha


 

 

 

อิมแจบอมเกลียดเสียงโทรศัพท์ในเช้าวันเสาร์

แต่เขาทำอะไรไม่ได้ ยิ่งเมื่อเห็นชื่อที่โชว์หราอยู่หน้าจอ ความง่วงก็สลายหายไปทันที มือรีบคว้าจับเจ้าเครื่องมือสื่อสารที่สั่นครืดคราดเหมือนปิศาจที่กำลังหิว แต่คงไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าปลายสายอีกแล้ว

“สวัสดีครับ”

“คุณอิม ขอโทษที่ต้องรบกวนเวลานะ”

อิมแจบอมมองนาฬิกาตรงหัวเตียง 7:02 …เวลาแบบนี้ในวันเสาร์…

“ครับ ไม่เป็นไรครับ หัวหน้ามีอะไรหรือเปล่าครับ”

ในฐานะพนักงานใหม่ที่เพิ่งผ่านโปรได้ไม่นาน สถานะของเขาเป็นยิ่งกว่าแรงงานทาสในออฟฟิศ ถ้าหัวหน้าเรียกตัว ไม่ว่าตอนนั้นจะอยู่แห่งหนตำบลใดในโลกก็ต้องพุ่งไป ต่อให้ตายก็ต้องขึ้นจากหลุมไปหา เพื่อนชอบด่าว่าเขาทุ่มเทแรงให้กับงานมากเกินไป แต่ทำยังไงได้ แจบอมรอคอยงานนี้มาหลายปี พอได้ทำงานที่นี่ก็ยอมถวายชีวิตให้บริษัทอยู่แล้ว

“เอ่อ…” ปลายสายอ้ำอึ้ง “คุณอิมรู้จักคุณนาใช่ไหม”

“นามินจีเหรอครับ?”

“ใช่”

“รู้จักครับ” จริง ๆ คือเป็นเพื่อนร่วมแผนกกัน “มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“เมื่อคืนเขา — เอ๊ะ เดี๋ยวสิคุณ”

เสียงปลายสายเหมือนโทรศัพท์โดนแย่งไป แจบอมขมวดคิ้ว รอฟังเสียงของหัวหน้าต่อ แต่เสียงที่ดังผ่านสัญญาณโทรศัพท์มากลับไม่ใช่เสียงแหบ ๆ ของหัวหน้าผู้อายุร่วมห้าสิบของเขา

กลับเสียงทุ้มนุ่มของชายหนุ่มคนหนึ่ง

“คุณนามินจีเสียชีวิตแล้ว คุณเป็นสายสุดท้ายที่หล่อนติดต่อ รบกวนมาที่สถานีตำรวจด้วยครับ”

 

 

 

 

 

อิมแจบอมวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในสถานีตำรวจ เขาเห็นหัวหน้ายืนหน้าซีดอยู่ข้างโต๊ะของนายตำรวจคนหนึ่งจึงเดินเข้าไปหาด้วยความรีบร้อน

“หัวหน้า”

“คุณอิม” อีกฝ่ายหันมาหาเขาทันที เสียงสั่นด้วยความตกใจ “มาสักที”

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ”

หัวหน้ายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับใบหน้าของตน ท่าทางไม่พร้อมจะเล่าที่สุด แต่แจบอมก็ยังมองอย่างคาดหวังว่าจะได้ยินคำอธิบายที่ชัดเจนกว่านี้ อะไรคือนามินจีเสียชีวิต เมื่อคืนยังคุยกันดี ๆ อยู่เลย

“มาแล้วเหรอครับ”

เสียงดังขึ้นจากด้านหลัง ชายหนุ่มท่าทางภูมิฐานคนหนึ่งตรงมาหาเขา ผมสีดำสนิทตัดสั้นรับกับใบหน้าหล่อเหลาแบบที่ทำให้นึกถึงพระเอกซีรีส์ดัง ๆ เชิ้ตขาวถูกพับแขนขึ้นไปถึงช่วงศอก เนกไทสีกรมท่ายังรัดแน่นอยู่ที่ช่วงคอ บ่งบอกความเอาจริงเอาจังและเข้มงวดของคนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี นัยน์ตาสีนิลมองสบเขาแล้วรอยยิ้มน้อย ๆ ก็ผุดขึ้นบนริมฝีปากอิ่ม

“ผม พัคจินยอง แผนกอาชญากรรม รับผิดชอบคดีของคุณนามินจีครับ”

ตำรวจสมัยนี้หน้าตาดีขนาดนี้เลยเรอะ

เป็นความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของแจบอม เขาโค้งให้อีกฝ่ายที่โค้งมาก่อน ก่อนจะถามย้ำอีกครั้ง

“ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ”

พัคจินยองวางเอกสารลงบนโต๊ะ ผายมือให้เขากับหัวหน้านั่งลงที่เก้าอี้รับแขกใกล้ ๆ กับโต๊ะของนายตำรวจคนนั้น ก่อนเอ่ย

“คุณนาถูกพบเป็นศพเมื่อตอนตีห้าครับ เจ้าของห้องเช่าที่เธออยู่เป็นคนพบ”

แจบอมขมวดคิ้ว “…ทำไมเธอถึง…”

“เบื้องต้นสันนิษฐานว่าฆ่าตัวตายครับ” พัคจินยองตอบเรียบ ๆ พอดีกับที่มีนายตำรวจอีกคนยกกาแฟมาเสิร์ฟ เจ้าตัวยกกาแฟดำขึ้นจิบ ผ่อนลมหายใจแล้วอธิบายต่อ “แต่ก็ยังตัดเรื่องฆาตกรรมออกไม่ได้ อาจมีแรงจูงใจอื่น ๆ ผมเลยต้องสอบถามคนรอบตัวเธอ และคนสุดท้ายที่เธอติดต่อด้วย”

คนฟังอึ้งไป เขาเหลือบมองหัวหน้าที่ยังหน้าซีดเซียวไม่เปลี่ยน แถมดูจะแย่กว่าเดิมด้วย แล้วก็หันกลับมามองตำรวจตรงหน้าอีกรอบ

“ผมต้องทำอะไรบ้างครับ”

“ก็แค่ตอบคำถามของเราอย่างตรงไปตรงมา แล้วก็ให้ความร่วมมือในการสอบสวนครับ”

เขาพยักหน้ารับ ก่อนจะเริ่มตอบคำถามที่ชเวยองแจ นายตำรวจอีกคนเข้ามาถาม โดยมีพัคจินยองฟังเงียบ ๆ

โดยสรุปแล้ว คดีไม่ได้มีอะไรซับซ้อน นามินจีเสียชีวิตช่วงสามนาฬิกา ก่อนจะถูกพบตอนห้านาฬิกา แจบอมกับเธอคุยกันตั้งแต่สี่ทุ่ม แล้วก็แยกย้ายกันไปเข้านอน

“มีความสัมพันธ์กันลักษณะไหนเหรอครับ” จินยองถามขึ้นมา​ “คุณกับคุณนา เป็นคนรัก?”

“เปล่าครับ” แจบอมส่ายศีรษะ “เป็นแค่เพื่อนร่วมงานกัน”

ตำรวจทั้งสองพยักหน้ารับ

“พอจะบอกใจความที่คุยกันได้ไหมครับ” ชเวยองแจถามเขา

แจบอมนิ่งไป ก่อนจะพึมพำ “ผมไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ช่วงนี้ มินจีมีเรื่องกังวลอยู่ครับ เลยมาปรึกษากับผมบ่อย ๆ”

“เรื่องกังวล?” พัคจินยองทวนเสียงสูง

“ครับ” แจบอมคิดถึงเรื่องนี้แล้วก็เม้มปาก “รู้สึกว่าก่อนหน้านี้เธอจะท้องครับ…”

พัคจินยองหันไปหาชเวยองแจทันที

“ชันสูตรแล้ว ไม่มีเด็กในท้องนะครับ”

คำตอบของชเวยองแจทำให้แจบอมรู้สึกหายใจลำบาก “…เธอคงไปเอาเด็กออกแล้ว”

“ทราบไหมครับว่าพ่อเด็กเป็นใคร”

พัคจินยองถามต่อ แจบอมส่ายหน้า “เธอไม่ได้บอกเรื่องพวกนี้เลยครับ แค่หลุดปากเรื่องนี้มาตอนเราไปดื่มกัน ผมเลยกลายเป็นที่ระบายให้เธอบ่อย ๆ”

ทุกคนเงียบฟัง ได้ยินเสียงชเวยองแจจดข้อความลงสมุด พัคจินยองวางแก้วกาแฟ มองตรงมาที่เขา

“แปลกนะครับ”

“ครับ?” จินยองเลิกคิ้ว

“คุณนาจะไม่สนใจคุณเลยจริง ๆ เหรอ ทั้งที่เป็นผู้ชายหน้าตาดีขนาดนี้”

คนฟังกะพริบตาปริบ ๆ แต่ยังไม่ทันพูดอะไร หัวหน้าของเขาก็โพล่งขึ้น

“คุณตำรวจครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัว…”

พัคจินยองหันไปมอง ก่อนจะลุกขึ้นยืนส่ง “ผมขอช่องทางติดต่อคุณไว้หมดแล้ว ไว้ถ้ามีอะไรจะโทร.ไปนะครับ ขอบคุณที่มา”

 

 

 

 

 

หัวหน้าจากไปแล้วตำรวจทั้งสองทรุดตัวนั่งบนโซฟาตรงข้ามแจบอม เขานั่งหลังไม่ติดเก้าอี้เลยเพราะรู้สึกผิดกับมินจี

และรู้สึกว่ามีอะไรแปลก ๆ

“คุณตำรวจครับ” แจบอมเอ่ยขึ้น “ผมขอถามอะไรได้ไหม”

ชเวยองแจพยักหน้ารับ “เชิญครับ”

“…เชิญหัวหน้าผมมาทำไมเหรอครับ”

พัคจินยองยิ้มมุมปากอีกแล้ว ก่อนจะเป็นคนตอบเขา “เขาเป็นคนสุดท้ายที่มีพยานพบว่าเห็นอยู่กับผู้ตายครับ”

“…ครับ?”

หัวหน้าเนี่ยนะ?

“ช่วงก่อนสองทุ่ม มีคนพบทั้งสองอยู่ด้วยกันแถวร้านอาหารใกล้กับที่พักของคุณนาครับ”

“อ่า…”

แจบอมเงียบไปอีกรอบ แล้วก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาเมื่อรู้สึกเหมือนจับเค้าลางอะไรบางอย่างได้

“…ถ้าไม่มีอะไรแล้ว” เขาขัดจังหวะจินยองกับยองแจที่ทำท่าจะคุยอะไรกันต่อ “ผมขอตัวได้ไหมครับ”

ชเวยองแจเปิดสมุดดูอีกสองสามรอบ “ผมถามไปหมดแล้วครับ ไว้มีอะไรจะติดต่อไปอีกทีดีกว่า หัวหน้าว่าไงครับ”

พัคจินยองพยักหน้ารับ ลุกขึ้นส่งเขาอย่างมีมารยาทตามเคย

“ไว้จะติดต่อไปครับ คุณอิมแจบอม”

 

 

 

 

 

สัปดาห์นั้นผ่านไปอย่างอึมครึม อิมแจบอมไปร่วมงานศพของนามินจีจนถึงวันสุดท้าย เพื่อนร่วมงานคนนี้ของเขาไม่มีญาติเลย การจัดงานต่าง ๆ ก็เป็นพวกเพื่อนติดต่อให้ หล่อนจากไปอย่างเงียบเหงาจนแจบอมอดน้ำตาซึมไม่ได้

พอผ่านงานศพไปได้แค่วันเดียว เขาก็พบกับพัคจินยองอีกครั้ง ที่ออฟฟิศของเขาเอง

“…คุณพัคจินยอง”

“คุณอิมแจบอม” อีกฝ่ายยิ้มให้เขา “สวัสดีครับ”

เขาโค้งตอบ มือที่กำลังจะกดเลือกเครื่องดื่มชะงักค้าง ก่อนจะหันกลับมามองตู้กดน้ำอัตโนมัติอย่างงง ๆ ตะกี้จะกดอะไรนะ

“นมสตรอว์เบอร์รี่ครับ” พัคจินยองพูดขึ้น แล้วเอื้อมมือมากดให้เขา ความใกล้ที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวทำเอาแจบอมชะงัก เผลอถอยออกไปเล็กน้อย จินยองก้มลงไปหยิบกล่องนมที่ร่วงลงมายื่นให้เขา

“ตะกี้คุณจะกดนมสตรอว์เบอร์รี่ครับ ผมเห็น”

“อ่า…” แจบอมรับมาอย่างอึ้ง ๆ “ขอบคุณครับ”

แล้วจินยองก็เป็นฝ่ายกดเครื่องดื่มออกมาบ้าง หลังจากยืนมองตู้อยู่เกือบสิบวินาที อีกฝ่ายก็หยอดเหรียญลงเครื่อง กดเลือกกาแฟดำ (อีกแล้ว) ให้กระป๋องกาแฟร่วงลงมาที่ช่องรับของ

แจบอมมองตำรวจตรงหน้าเปิดกระป๋องกาแฟดื่มแล้วก็นึกได้ว่า พัคจินยองไม่ควรอยู่ที่นี่่

“คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ”

จินยองลดกระป๋องกาแฟออกจากปาก แจบอมเห็นอีกฝ่ายเช็ดริมฝีปากอิ่มนั่นด้วยข้อมือแล้วก็อยากจะหาทิชชู่ให้เหลือเกิน เดี๋ยวแขนเสื้อก็เปื้อนหมดหรอก

“อ่า… หัวหน้าของคุณน่ะครับ”

“ครับ?”

“คดีของคุณนา สรุปแล้วหัวหน้าของคุณมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยครับ”

แจบอมเบิกตากว้าง แต่ตัวเขากลับไม่ได้ตกใจขนาดนั้น เหมือนพอจะเดาได้อยู่แล้วว่าต้องเกี่ยวข้อง แค่ตกใจที่จู่ ๆ ตำรวจพรวดพราดเข้ามาต่างหาก

“พอจะเล่าได้ไหมครับ”

จินยองส่ายหน้ายิ้ม ๆ “ตอนนี้ไม่ได้หรอกครับ แต่ว่า…”

อีกฝ่ายหยิบมือถือขึ้นมา กดอยู่พักหนึ่ง มือถือของแจบอมก็สั่นขึ้นมา เขาหยิบมาดูหน้าจอด้วยความสงสัย

“นี่เบอร์คุณจริง ๆ สินะ โอเค เดี๋ยวผมส่งข้อความไปบอกถ้าว่างเล่าแล้วนะครับ”

“…ฮะ? เดี๋ยวครับ”

แต่พัคจินยองจากไปแล้ว

ทิ้งความงงไว้ให้อิมแจบอมตรงนี้

 

 

 

 

 

เย็นวันนั้น ตอนที่นาฬิกาบอกเวลาเลิกงานและอิมแจบอมเริ่มเก็บข้าวของเตรียมออกจากออฟฟิศ ก็มีข้อความเข้ามาในมือถือเขาพอดี

ผมว่างแล้วครับ รอคุณอยู่ที่ร้านกาแฟหน้าที่ทำงานคุณ – PJY

แจบอมมองข้อความที่ปรากฏบนหน้าจอด้วยความอึ้งปนงง เขาไม่คิดว่าพัคจินยองจะส่งข้อความมาบอกจริง ๆ ดังนั้นจึงได้แต่รีบเก็บข้าวของแล้วลงมาจากออฟฟิศชั้นบน ด้านหน้าตึกออฟฟิศเขามีร้านกาแฟอยู่ร้านหนึ่ง เขาเห็นพัคจินยองนั่งที่นั่งติดกระจก โบกมือมาให้เขาด้วยรอยยิ้มกว้างจนเห็นรอยพับที่หางตา ตรงหน้ามีแก้วเครื่องดื่มที่มีควันลอยฉุย

แจบอมเปิดประตูร้านเข้าไป เห็นตำรวจที่สวมโค้ตยาวสีเบจนั่งยิ้มให้เขาอยู่แล้วก็พูดไม่ออก

“…อะไรของคุณเนี่ย”

“ก็บอกว่าถ้าว่างจะเล่าให้ฟังไงครับ นี่ผมก็ว่างแล้ว เลยเชิญคุณมาฟัง”

“…”

เขาหมดคำพูดกับท่าทางประหลาดของคนตรงหน้า แต่ก็ยอมทรุดตัวที่เก้าอี้ตัวใกล้ ๆ กัน จินยองหมุนกายมาหาเขาก่อนจะพูดยิ้ม ๆ

“หัวหน้าโดนจับก็ยังทำงานกันต่อเหรอครับ บริษัทเข้มงวดน่าดู”

“ก็…ทำไงได้ล่ะครับ” แจบอมหัวเราะแห้ง ๆ ภาพอดีตหัวหน้าแผนกของเขาโดนตำรวจหิ้วไปคงตราตรึงทุกคนในชั้นไปอีกหลายเดือน แต่ในเมื่อเบื้องบนไม่สั่งให้หยุด ก็ต้องทำงานกันต่อ

“หัวหน้าคุณเป็นพ่อของเด็กในท้องคุณนาจริง ๆ ครับ” จินยองเข้าเรื่องโดยไม่ให้สัญญาณล่วงหน้า “ทั้งสองมีความสัมพันธ์ลับ ๆ กัน แต่เพราะฝ่ายหญิงเริ่มเรียกร้องมากขึ้น เพราะตัวเองไม่ใช่ภรรยาตามกฎหมาย ก็เลยทะเลาะกันบ่อย จนถึงขั้นรุนแรงก็วันนั้น หัวหน้าคุณพลั้งมือฆ่าคุณนาครับ เพราะเป็นการฆาตกรรมที่ไม่ได้วางแผนไว้ก่อน เลยมีช่องโหว่อยู่เต็มไปหมด คดีก็เลยคืบหน้าได้เร็ว พอจบงานศพคุณนาก็จับตัวคนร้ายได้เลย”

จินยองไม่ได้อธิบายเรื่องช่องโหว่พวกนั้น แต่แจบอมก็พอจะจินตนาการได้ว่ามีอะไรบ้าง ทั้งการที่ปรากฏตัวเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับผู้ตาย หรือท่าทางแปลก ๆ ของหัวหน้าช่วงที่เขาพูดเรื่องมินจีท้อง คิดว่าตำรวจคงพอเดา ๆ ได้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วเลยเรียกไปคุยก่อนเขา แต่คงต้องการคำพูดของเขายืนยันให้ชัดเจนขึ้น

“…ดีแล้วล่ะครับที่จับได้ มินจีจะได้ไม่ต้องตายฟรี” แจบอมถอนหายใจ “ลูกของเธอด้วย”

จินยองเอียงคอ “ดูคุณรู้สึกผิดกับเรื่องนี้นะครับ ผมสังเกตตั้งแต่วันให้ปากคำแล้ว”

“ครับ ก็นิดหน่อย” เขาถอนหายใจ “บางทีถ้าช่วยอะไรเธอได้มากกว่านี้คงดี เธอจะได้ไม่ต้องมาตายแบบนี้ ผมอาจจะได้ไปเล่นกับลูกของเขาอยู่แทนที่จะไปงานศพเขา”

แจบอมเงียบไป เขารู้สึกสะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูกกับเรื่องของมินจี มันเร็วเกินไป เขายังเห็นภาพมินจีเป็นหญิงสาวร่าเริงของแผนกที่วางใจได้ และคอยช่วยเหลือทุกคนอยู่ตลอด พอเธอมาด่วนจากไปแบบนี้ แม้จะไม่มีใครพูดอะไรออกมา แต่แน่นอนว่าพวกเขาทุกคนเสียใจ

แล้วแจบอมก็หลุดจากภวังค์เมื่อสัมผัสได้ว่ามือของตนมีคนคว้าไปจับ ไหนจะแรงบีบเบา ๆ เหมือนให้กำลังใจอีก ซึ่งคนนั้นก็ไม่ใช่ใครเลย พัคจินยอง

เขาดึงมือออกอย่างสุภาพ ก่อนจะโค้งให้ตำรวจตรงหน้า “ขอบคุณที่อุตส่าห์เล่าให้ฟังนะครับ”

“ผมยินดีครับ” จินยองยิ้มนุ่มนวล ซึ่งเพราะอะไรไม่รู้ แจบอมรู้สึกว่ามันขัดกับตัวตนลึก ๆ ของคนตรงหน้า “ถ้ามีอะไรที่ผมช่วยคุณอิมแจบอมด้วย ผมยินดีทั้งนั้น”

“…ครับ?”

ประโยคแสดงน้ำใจเกินพอดีนั่นทำเอาแจบอมหลุดเสียงออกมา พัคจินยองยังคงยิ้ม แต่ยิ้มกว้างกว่าเดิม

“ถึงเรื่องคุณนาจะน่าเศร้า แต่ก็มีเรื่องดี ๆ อยู่บ้างนะครับ” ว่าแล้วก็หันมามองเขาด้วยตาเป็นประกายผิดปกติ “ไว้ผมจะแวะมากินกาแฟกับคุณอิมแจบอมบ่อย ๆ นะครับ ยินดีที่ได้เจอ”

พัคจินยองลุกขึ้น เขาเลยต้องลุกตาม อีกฝ่ายโค้งให้เขาเล็กน้อยด้วยท่าทางทีเล่นทีจริง ก่อนจะโบกมือลาแล้วเดินออกไปจากร้านกาแฟ ตอนเดินผ่านหน้ากระจกที่เขานั่งอยู่ก็มิวายขยิบตาให้อีกหนึ่งที แล้วเดินจากไปจริง ๆ

“…”

แจบอมมองมือตัวเองสลับกับตำแหน่งยืนเมื่อครู่ของจินยอง แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ

ตำรวจสมัยนี้ หน้าตาดีแต่ไม่เต็มเหรอเนี่ย

 

 

 

FIN

 

 


 

20180403

ตอนแรกก็ไม่ได้จะเขียนหรอกค่ะ แต่คิดอะไรขึ้นมาได้เลยลอง ๆ พิมพ์ดู รู้สึกตัวอีกที ยาวจนจบ (…)

ก็เป็นฟิคขำ ๆ ที่ไม่ค่อยมี crime scene อะไรค่ะ เพราะคิดตะกี้ คงมิอาจวางพล็อตอลังการแบบฮันนิบาลไรงี้ได้ ขำ ๆ ไป เป็น AU คุณตำรวจ x พนักงานออฟฟิศ

จริง ๆ เคสแอบโหด แต่เราแทบไม่เล่าอะไรเลยเลยอาจไม่ได้สัมผัส 555 พอดีเพิ่งดู Black ตอนใหม่ค่ะ (ดูตอนกินข้าวรอทำงาน…) หวังว่าจะชอบกันนนนนนน

ชอบไม่ชอบยังไง คอมเมนต์ได้ที่นี่ หรือ #wirunfic เหมือนเดิมเลยยย เราอ่านทุกคอมเมนต์!