บทความนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย, Y, BL
หากไม่ชอบกรุณากดปิด
บทความนี้เป็นแฟนฟิกชั่นซึ่งเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคล เหตุการณ์ หรือสถานที่ใด ๆ ทั้งสิ้น
WHAT I WANNA WRITE
GOT7 Fan Fictions
Jackson x Mark
//จริง ๆ คือไม่มีชื่อเรื่อง แค่อยากเขียนเฉย ๆ ค่ะ ไม่มีพล็อตอะไรด้วย ๕๕๕ เอ็นจอยนะคะ
Warning: No Plot
เขารู้สึกตัวขึ้นมาบนเตียงนอนที่ไม่ได้นุ่มอะไรนัก เตียงนอนชั้นสองในห้องที่เคยเป็นของพวกเขา แต่ปัจจุบันมีสภาพเหมือนห้องเก็บของ ปกติก็ไม่ได้เข้ามานอนหรอก แต่เมื่อคืนนึกครึ้มอะไรไม่รู้ เขากึ่งชวนกึ่งบังคับอดีตรูมเมตให้มานอนเป็นเพื่อน
บนเตียงเดียวกันนี่แหละ
ร่างของเขาอยู่ชิดกำแพงอีกฝั่ง เพราะเตียงนี้ไม่ได้ใหญ่อะไรเลย พวกเขาสองคนเป็นผู้ชายทั้งคู่ เลยกินพื้นที่เตียงเข้าไปอีก แต่ถามว่าอึดอัดไหมตอนนอน
ไม่เลยสักนิด
มาร์ครู้สึกตัวขึ้นมาเพราะอ้อมกอดที่กอดเขาไว้ทั้งคืนหายไป พอพลิกตัวหันมามองก็เห็นเพียงความว่างเปล่า แจ็คสันคงตื่นแล้ว แต่ไม่รู้ไปไหน
เขาลุกขึ้นนั่ง ไม่ได้คิดว่าจะต้องปีนลงจากเตียง เพราะวันนี้เป็นวันหยุด เขาจะนอนยาวจนถึงเช้าพรุ่งนี้ก็ย่อมได้ ชดเชยเวลาที่แทบไม่ได้พักผ่อนตั้งแต่ใกล้คัมแบ็ก คว้าตุ๊กตาในมือมากอดแน่น ๆ สักทีแล้วถอนหายใจ
“มาร์ค”
แล้วเสียงเรียกก็ดังมาจากประตูห้อง พอเขาชะโงกหน้าไปมองก็เห็นแจ็คสันชะโงกหน้าเข้ามา เจ้าตัวสวมเพียงเสื้อกล้ามสีดำแบบที่ชอบใส่ประจำกับกางเกงบอล ผมสีบลอนด์ซีดฟูเล็กน้อยเพราะไม่ได้จัดทรง
“…อรุณสวัสดิ์”
เขาเอ่ยปากออกไป แจ็คสันพยักหน้ารับ “ตื่นแล้วเหรอ? กินอะไรไหม?”
“มีอะไรกินอะ?”
“ชา กาแฟ ขนมปัง…” คนพูดมองหน้าเขาแล้วพูดต่อ “แยมผลไม้”
“ไม่อยากลงไปอะ”
“งั้นเดี๋ยวเอามาให้ เอาอะไรบ้างอะ”
ได้ยินแล้วมาร์คยิ้มกว้าง “เอากาแฟกับขนมปังแยมนั่นแหละ รีบมานะ”
แจ็คสันหลุดขำ แต่กลับไม่รีบออกไปนอกห้อง ชายหนุ่มปิดประตู แล้วเดินมาใกล้เตียง ปีนบันไดขึ้นมาไม่กี่ขั้นแค่พอให้เห็นหน้าเขาชัด ๆ
“ขยับมานี่”
มาร์คทำตามอย่างว่าง่าย เขาสงสัยว่าแจ็คสันจะทำอะไร
พอยื่นหน้าไปใกล้ ๆ คนอายุน้อยกว่าก็ขยับใบหน้ามากดริมฝีปากลงบนปลายจมูกเขาเร็ว ๆ หนึ่งที
“ขี้เกียจเชียวนะ เดี๋ยวเอามาให้”
แม้ประโยคแรกจะตำหนิ แต่มาร์คก็แค่ยิ้มกว้างรับก็เท่านั้น
ไม่ถึงห้านาทีแจ็คสันก็กลับมาพร้อมกาแฟกลิ่นหอมฉุยและชาร้อนอีกแก้ว กับขนมปังทาแยมเรียบร้อย มาร์คควรจะลงจากเตียงแต่แจ็คสันบอกว่าไม่ต้อง พวกเขานั่งกันบนเตียงโดยมีจานขนมปังกับแก้วชากาแฟวางอยู่ ผ้าห่มกับหมอนกองอยู่อีกฝั่งของเตียงให้มีพื้นที่ว่างเล็ก ๆ พอให้พวกเขานั่งด้วยกันได้
มาร์คยกกาแฟขึ้นจิบ มันก็เป็นกาแฟสำเร็จรูปธรรมดานี่แหละ แต่ก็เหมาะกับช่วงเวลาแบบนี้ดี
แจ็คสันกับมาร์คแตกต่างกันหลายอย่าง ที่แน่ ๆ คือเรื่องชากับกาแฟนี่แหละ แจ็คสันดื่มแต่ชาออร์แกนิก ส่วนมาร์คชอบกาแฟมาก
“คนอื่นล่ะ?” เขาถามถึงสมาชิกที่ควรจะโวยวายเสียงดังในห้องรับแขกจนได้ยินมาถึงห้องเขา แจ็คสันที่กำลังกัดขนมปังเลิกคิ้วก่อนตอบ
“เด็กสองคนนั่นอยู่ในห้องกันนั่นแหละ แต่ยองแจออกไปข้างนอก แจบอมกับจินยองอ่านหนังสืออยู่ในห้องครัว โคโค่ก็นอนอยู่เหมือนเดิม”
“อ่อ” คนฟังพยักหน้ารับ “แล้ววันนี้ไม่มีตารางอะไรแน่ ๆ ใช่ไหม?”
“ไม่นะ” แจ็คสันว่า “แต่ตอนบ่าย ๆ ว่าจะไปยิม”
มาร์ครับฟังอย่างเข้าใจ ช่วงใกล้คัมแบ็กพวกเขาเข้ายิมกันเป็นว่าเล่น อย่างน้อยก็ต้องรักษาหุ่นหน่อยล่ะนะ
“อีกตั้งนานกว่าจะถึงตอนนั้น ขอนอนก่อนได้ไหม?”
“ตามสบายเลย” แจ็คสันยิ้ม “รีบกินเถอะ จะได้เก็บจาน จะนอนต่อไม่ใช่เหรอ?”
พอพูดแบบนั้นมาร์คเลยรีบจัดการขนมปังตรงหน้า เคี้ยวตุ้ย ๆ คำใหญ่จนแก้มป่อง เห็นแล้วแจ็คสันอดหัวเราะไม่ได้
“ก็ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้”
“อ้าว ก็นายบอกเอง”
“ตลกอะ ดูดิ แก้มป่องเชียว เหมือนกระต่ายเลย”
มาร์คย่นจมูกใส่ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากแกล้งผลักแขนอีกคนเบา ๆ แจ็คสันขอตัวปีนลงจากเตียงไปเก็บจาน มาร์คเลยจัดที่นอนกลับมาเหมือนเดิม
พอแจ็คสันกลับเข้ามาอีกรอบ เขาก็นอนเล่นกับเจ้าปิกาจูอยู่บนเตียง แจ็คสันหยุดมองยิ้ม ๆ แล้วก็ขยับมาใกล้ ๆ
“เบียดขนาดนี้นอนสบายเหรอ?”
คนถามว่าพลางขยับให้เขาวางศีรษะบนต้นแขน มาร์คซบหน้าลง รับรู้ได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจใต้อกแน่น ๆ นั่น เขาแกล้งวางตุ๊กตาบนหน้าแจ็คสันแล้วตอบ
“สบายจะตาย ดีกว่านอนคนเดียวเยอะเลย”
“ไม่กลัวฉันตกเตียงหรือไง”
มาร์คกอดเอวอีกฝ่ายหมับ “นี่ไง ไม่ตกหรอก”
แจ็คสันหลุดขำอีกแล้ว “How old are you, Mark? Just 3 years old, right?”
มาร์คไม่ตอบ แต่แกล้งฝังจมูกลงแถวช่วงหน้าอกแจ็คสันแถมงับผ่านเสื้อกล้ามเบา ๆ จนเจ้าของร่างสะดุ้ง งานนี้แหละจะตกเตียงลงไปจริง ๆ
“เฮ้ เล่นอะไรเนี่ย”
“หมั่นไส้” มาร์คตอบหน้าตาเฉย “ฉันจะนอนแล้ว ห้ามเสียงดังนะ”
“จะให้ฉันเสียงดังได้ไง นายนอนฉันก็ต้องเงียบแล้ว ไม่รู้จะคุยกับใคร”
“ห้ามไปไหนด้วย”
“…ถ้าฉันอยากเข้าห้องน้ำอะ?”
“สะกิดเรียกฉันด้วยแล้วกัน”
แจ็คสันขำก๊าก ยกมือข้างหนึ่งลูบกลุ่มผมที่ซุกอยู่ตรงแถวหน้าอกตัวเองอย่างนึกเอ็นดู
เอ็นดูคนที่อายุมากกว่าเขานี่แหละ
“มาร์ค”
เขาเรียกก่อนที่อีกฝ่ายจะหลับตา มาร์คช้อนตาขึ้นมามองอย่างสงสัย “What?”
แจ็คสันชั่งใจอยู่พักหนึ่ง “…คนอื่นคงไม่เข้ามาในห้องเราใช่ไหม?”
มาร์คกะพริบตาปริบ ๆ “นายล็อกประตูแล้วใช่ไหมล่ะ?”
“ล็อกแล้วสิ”
“แล้วยังไง?”
แจ็คสันกลอกตา “นี่นายแกล้งโง่ทำไม?”
มาร์คหัวเราะบ้าง เห็นเขี้ยวขาวชัดเจนจนหน้าหมั่นไส้ “แกล้งนายสนุกจะตาย ไม่รู้เหรอ?”
เขาถอนหายใจ พอดีกับมาร์คที่ตอนแรกนอนอยู่ขยับขึ้นมาเท้าแขนลงข้างศีรษะเขา แล้วโน้มริมฝีปากลงมาทั้งที่ยังหัวเราะอยู่
แจ็คสันชอบจูบมาร์ค ไม่มีเหตุผลเป็นพิเศษ ก็แค่ชอบ… พวกเขาจูบกันหลายครั้ง หลายแบบ แต่ที่ชอบที่สุดคือแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ จูบเหมือนหยอกกัน เหมือนกำลังเล่นไล่จับ ไล่ต้อนลิ้นและฟันของอีกฝ่ายไปมา เขาแกล้งแตะเพดานปากของอีกฝ่ายด้วยปลายลิ้นขณะที่มาร์คพยายามจะงับริมฝีปากล่างของเขา พวกเขาจูบกันไปหัวเราะไป จนสุดท้ายมาร์คก็หมดแรงโดนเขาจับนอนลงแล้วยกตัวเองขึ้นมามองหน้าอีกฝ่ายบ้าง
พวกเขาต่างหอบหายใจใส่กัน ถึงมันจะเป็นการแกล้งหยอกแต่ก็เสียพลังงานมากพอสมควร มาร์คหน้าขึ้นสีจัด แก้มแดงจนเขาอดจูบซับไม่ได้ ขณะที่คนโดนจูบก็ยังหัวเราะคิกคักเหมือนพอใจนักหนา
มาร์คจับหน้าเขาดันออก ก่อนจะแกล้งงับปลายจมูกเขาเบา ๆ แจ็คสันไม่ได้หลับตาลง เขาเห็นสีหน้าอีกฝ่าย เห็นแพขนตายาวและนัยน์ตาเป็นประกายที่จ้องมองมาอย่างไม่หวาดหวั่นนั่นชัดยิ่งกว่าชัด
เขาแกล้งเลื่อนมือลงไปตรงเอวกางเกงมาร์ค แต่อีกฝ่ายชิงจับข้อมือเขาไว้
“No. No. Not this time.”
พูดยิ้ม ๆ พลางดึงให้เขากลับลงไปนอนเบียดข้าง ๆ เหมือนเดิม แจ็คสันกลัวมาร์คเมื่อยเลยขยับเป็นฐานให้มาร์คนอนทับตัวเขาอีกที
“So… when?”
เขาถามเสียงเบา เพราะไม่มีความจำเป็นต้องพูดเสียงดังใส่คนที่หน้าห่างจากเขาไปไม่ถึงนิ้วเลยสักนิด
“Next time.”
มาร์คตอบไม่ชัดเจน และแจ็คสันก็คิดว่าคาดคั้นไปก็เท่านั้น เขาขยับไปกดจูบลงบนหน้าผากอีกฝ่ายก่อนถอยกลับมานอนมองหน้าคนตรงหน้าอีกครั้ง
“งั้นก็นอนเถอะ”
มาร์คยิ้มให้เขาอีกครั้ง ยิ้มสดใสเหมือนทุกครั้ง ก่อนจะขยับตัวให้เข้าที่เข้าทางแล้วหลับตาลง
แจ็คสันรอจนลมหายใจอีกฝ่ายสม่ำเสมอ เขาลูบผมนุ่มนั้นอีกทีก่อนจะหลับตาลงบ้าง
นาฬิกาเพิ่งบอกเวลาแปดโมงเช้า
พวกเขายังมีเวลานอนอยู่ด้วยกันอีกนาน
FIN
20160929
TALK
ปวดหัวอะค่ะ เหมือนจะเป็นไมเกรน ๕๕๕ (อีกแล้ว) แต่แวบมาเขียนเพราะคิดถึงจาร์ค อยากเขียนอะไรถึงหน่อย ก็ไม่รู้จะคิดถึงทำไม สองสามวันมานี้เต็มไทม์ไลน์เลย ๕๕๕๕
เรื่องนี้ไม่มีพล็อตอะไรเลยค่ะ แค่อยากเขียนเขารักกัน แล้วมันก็ออกมาเป็นแบบนี้
(ค่ะ เขียนเหมือนไม่รู้ว่าตัวเองมีงานต้องทำ)
ชอบหรือไม่ยังไงคอมเมนต์ไว้ได้นะคะ หรือ #wirunfic ที่เดิมเลย ❤
อ้อ ช่วงนี้เริ่มทยอยเอาฟิคมาลง wordpress เกือบหมดแล้วค่ะ #wirunfic ในเด็กดีอาจจะลงถึงแค่ตอนที่ 100 แล้วไม่อัปต่อ ย้ายมานี่หมดเลย ๕๕๕
แล้วเจอกันค่ะ
วิรัล
ป.ล. เขียนเรื่องนี้เสร็จแล้วโล่ง ๆ ไงไม่รู้ เหมือนแบบ เออ อยากเขียน ได้เขียนแล้วนะ นอนหลับฝันดีได้แล้วค่ะคืนนี้ ๕๕๕