บทความนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับชายรักชาย, Y, BL
หากไม่ชอบกรุณากดปิด
บทความนี้เป็นแฟนฟิกชั่นซึ่งเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคล เหตุการณ์ หรือสถานที่ใด ๆ ทั้งสิ้น
THE SECRET LIFE OF MARK TUAN
GOT7 Fan Fictions
Jackson x Mark
2
New York in Love
ยามเช้าอันแสนสดใสของมาร์ค ต้วน เริ่มด้วยอาหารเช้ารสชาติไม่แย่นักในห้องอาหารของโรงแรมที่เขาพัก แต่ทุกอย่างดูจะสดใสขึ้นอีกเท่าตัวเมื่อเขาพบว่านอกจากเขาและพ่อที่นั่งร่วมโต๊ะกันอยู่ ยังมีคุณหวังและลูกชายที่ขอมานั่งด้วย
“ตื่นเช้ากันจริง ๆ เลยนะ” คุณหวังเอ่ยขึ้น แล้วหันมายิ้มให้มาร์คที่กำลังตั้งอกตั้งใจปาดแยมลงบนขนมปังปิ้ง “วันนี้ฝากมาร์คดูแลเจ้าแจ็คสันหน่อยนะ”
“ฮะ?” มาร์คแทบทำขนมปังร่วง หันไปมองคุณหวัง แล้วเผลอไปสบสายตากับคนที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาสักพัก ก่อนจะละล่ำละลักตอบ “…เอ่อ ครับ ได้ครับ”
“เป็นอะไรเรา ดูไม่ค่อยมีสมาธินะ” เรย์มอนด์เอ่ยถามลูกชายด้วยความเป็นห่วง แน่นอนว่ามาร์คทำได้แค่ส่ายหน้าปฏิเสธ
“นอนไม่พอนิดหน่อยน่ะครับ ไม่มีอะไรหรอก”
คำตอบเหมือนจะขอไปที แต่มาร์คไม่อยากจะบอกว่ามันเป็นความจริงทุกประการ เมื่อคืนเขานอนน้อยกว่าปกติ หลังจากแยกย้ายกันกลับห้องหลังงานเลี้ยงเลิก แทนที่จะล้มตัวลงนอนให้สมกับความล้าตลอดทั้งวัน เขากลับเปิดแล็ปท็อปต่อเข้าไวไฟฟรีของโรงแรมเพื่อหาสถานที่ท่องเที่ยวในแมนฮัตตัน
ทั้งหมดก็เพราะคำพูดไม่คิดอะไรของแจ็คสัน หวังนั่นแหละ
ถ้าระหว่างเขากับแจ็คสันเป็นแค่คนที่รู้จักกันเพราะพ่อสนิทกันมันคงดี แต่สำหรับมาร์คมันไม่ใช่… แจ็คสันสำหรับเขาเป็นมากกว่านั้น มากเกินกว่าที่จะบรรยายได้
ดังนั้น การที่เขามีสตินั่งปาดขนมปังอย่างใจเย็นได้นี่ก็สุดยอดแล้ว
เพราะความจริงมาร์คอยากปาของทุกอย่างลงแล้ววิ่งกลับห้องไปหยิบกล้องถ่ายรูปเสียเหลือเกิน
แจ็คสันวันนี้แต่งตัวสบาย ๆ เหมาะกับอากาศที่กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิของนิวยอร์ก เป็นเสื้อยืดลายเก๋ ๆ กับสูทสีเข้ม ดูดีแบบที่สมควรจะเป็น เพราะสำหรับมาร์คต่อให้แจ็คสันสวมเสื้อกล้ามกับบ็อกเซอร์มันก็ยังดูดีอยู่ดี
“แล้วคิดหรือยังว่าจะไปไหนวันนี้” เรย์มอนด์โพล่งถามขึ้นมา มาร์คกลืนขนมปังชิ้นสุดท้ายลงคอ เอ่ยตอบผู้เป็นพ่อก่อนคว้าน้ำส้มมาดื่ม “คงเที่ยวรอบ ๆ เกาะแมนฮัตตันแหละครับ แค่ในเซนทรัลปาร์คก็เดินได้ทั้งวันแล้ว”
คุณต้วนพยักหน้ารับรู้ “แล้วนี่จะอยู่ยาวไม่กลับพร้อมป๊า?”
“…ครับ”
“แจ็คสันก็จะอยู่ยาวเหมือนกัน” คุณหวังเอ่ยบ้าง “พอดีมีงานต่อที่นิวยอร์ก มาร์คก็เหมือนกันเหรอ?”
คนโดนถามได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ พลางตอบรับเสียงแผ่ว “…ก็ทำนองนั้นแหละครับ”
“อย่าให้เสียงานแล้วกัน”
เรย์มอนด์ย้ำอีกครั้ง และมาร์คก็ได้แต่รับคำในคอ “ครับป๊า…”
ถ้าป๊ารู้ว่าอยู่ต่อเพราะไปงานมีตแจ็คสัน หวังนี่คงตาย
เอ๊ะ แต่แจ็คสันก็อยู่ตรงนี้นี่หว่า
“รีบกินแล้วรีบไปเถอะ เดี๋ยวสายแล้วจะเสียเวลา” คุณหวังเร่งลูกชาย แจ็คสันที่วันนี้เงียบผิดวิสัยเลยรีบจัดการอาหารของตัวเอง แล้วก็ต้องงงเมื่อผู้เป็นพ่อลุกขึ้นก่อน
“…ไปไหนครับ?”
“ป๊าจะรีบกลับก่อน มีงานต่อ ดูแลตัวเองได้ใช่ไหม?”
แจ็คสันที่ยังคาบขนมปังไว้ในปากพยักหน้ารับ “ผู้จัดการก็อยู่”
“ลืมไป” คุณหวังตบบ่าลูกชายเบา ๆ “โชคดี เดินทางปลอดภัย ไปพร้อมกันเลยไหม เรย์มอนด์”
“ได้ ๆ” แล้วคุณต้วนก็ลุกบ้าง หันมาหาลูกชายที่ทำหน้างงไม่ต่างกัน “แล้วเจอกันที่บ้าน มีอะไรก็โทร.มาหานะ”
มาร์คพยักหน้ารับงง ๆ แล้วเขากับแจ็คสันก็ได้แต่มองตามสองชายวัยครึ่งค่อนอายุที่เดินไปหัวเราะไปออกจากห้องอาหาร
ก่อนที่จะกลับมาสบตากันอีกครั้ง
“…”
ภาพของแจ็คสันที่กำลังคาบขนมปังไว้ในปากทำเอามาร์คเผลอยิ้มกว้าง เกือบจะหัวเราะแล้ว ถ้านัยน์ตาคมไม่ส่งสายตาแปลก ๆ มาก่อน
“…อะไรของคุณ”
“คุณนั่นแหละอะไร? ขำอะไรผมครับ”
ถึงกับต้องใช้มือข้างหนึ่งถือขนมปังไว้ มาร์คส่ายหน้า พยายามกลั้นขำ “ช่างเหอะ คุณรีบกินเถอะ จะไปเที่ยวไม่ใช่หรือไง”
แจ็คสันยักไหล่ “ผมดีใจนะที่คุณไปด้วย”
“อ้าว ก็คุณพูดเอง”
“ผมไม่นึกว่าคุณจะตกลงจริง ๆ นี่นา”
มาร์คถอนหายใจ “คุณควรจะรู้ว่า คนเป็นแฟนคลับน่ะ ไอดอลขออะไรก็พร้อมให้ทั้งนั้นแหละ”
แจ็คสันเลิกคิ้ว “บางทีผมก็ควรใช้จุดนี้ให้เป็นประโยชน์หรือเปล่า”
“ถ้าจะหลอกใช้ผมก็คิดดี ๆ นะ เพราะถึงคุณจะหลอกจนผมหมดตัว ผมก็ไม่เลิกเป็นแฟนคลับคุณหรอก”
คำตอบนั้นทำเอาคนฟังชะงักมือที่กำลังจะคว้าแก้วน้ำ แจ็คสันกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะเผยรอยยิ้มที่แปลกจากปกติ
ที่มาร์คคิดว่ามันแปลก เพราะมันไม่เหมือนรอยยิ้มที่เขาเคยเห็นผ่านกล้อง …มันเป็นรอยยิ้มที่แจ็คสันไม่เคยเผยให้เห็นที่ไหนมาก่อน
“พูดเหมือนสารภาพรักเลยนะ มาร์ค”
ดวงหน้าขาวเหมือนจะร้อนขึ้นมาพอโดนเรียกชื่อแบบนั้น มาร์คไม่สบตาอีกคน แต่รีบเก็บจานซ้อน ๆ กันไว้แล้วทำท่าจะลุกจากโต๊ะ
“ผมไม่ได้สารภาพรัก ผมแค่พูดตามที่คิด ในฐานะแฟนคลับที่อยากจะอยู่ข้างคุณจนถึงวินาทีสุดท้าย จนกว่าคุณจะตัดสินใจทิ้งพวกผม…”
“เมเนเจอร์อิมไม่ไปด้วยเหรอครับ?” มาร์คถามขึ้นหลังจากที่แจ็คสันกำลังเดินมาหาเขาที่ยืนรออยู่หน้าโรงแรม ไอดอลหนุ่มที่พรางใบหน้าด้วยแว่นตาแฟชั่นสีดำกรอบหน้าส่ายหน้ายิ้ม ๆ
“เขาบอกว่าอยากไปไหนก็ไป แต่ให้ระวังตัวเองน่ะ”
เมเนเจอร์อิมที่มาร์คถามถึงคือผู้จัดการส่วนตัวของแจ็คสัน ไม่มีใครรู้ชื่อจริง แต่มาร์ครู้… โอเค เขารู้เพราะเลขาปาร์คฯ บังเอิญไปสืบเจอน่ะ รู้สึกจะชื่ออิม แจบอม หน้าตาจัดว่าโดดเด่นเข้าขั้นไอดอล มาร์คเคยเห็นบ้างตอนไปตามแจ็คสัน
“แปลว่าวันนี้คุณก็ค่อนข้างจะเป็นอิสระสินะ”
“ทำไมใช้คำว่าค่อนข้างล่ะ” แจ็คสันยิ้มขำ “อย่างน้อยผมก็ไปไหนมาไหนสะดวกกว่าอยู่แถวเอเชียนะ”
“ถือว่ามาพักผ่อนก่อนงานพรุ่งนี้แล้วกันครับ” มาร์คยิ้มบาง พยายามไม่สบตาอีกคน ต้องให้บอกไหมว่าเพราะอะไร? เขินไง
“แล้ววันนี้ มาร์คมีแผนเที่ยวอะไรบ้างล่ะครับ”
คนโดนเรียกชื่อสูดหายใจลึก รู้สึกแปลก ๆ ทุกครั้งที่คนที่ตัวเองปลื้มมาเรียกชื่อต้นกันแบบนี้ ชายหนุ่มหยิบไอแพดเครื่องประจำที่ตัวเองพกติดตัวตลอดขึ้นมาเปิดให้ดู เปิดแอปพลิเคชั่นแผนที่ประกอบ
“โรงแรมเราอยู่ใกล้เซนทรัลปาร์ค งั้นเดี๋ยวค่อยแวะเที่ยวตอนขากลับก็ได้ ผมว่าเราน่าจะเข้าไปดูแถวมิดทาวน์ นั่งเมโทรเอาก็น่าจะสะดวกดี หรือคุณว่ายังไง? จะนั่งบัสหรือแท็กซี่ไหม? อยากประหยัดหรือเอาที่สะดวก”
เขาช้อนตาขึ้นมาถามอีกคน ก่อนจะชะงักเมื่อพบว่าคนตรงหน้าเอาแต่จ้องหน้าเขานิ่ง ไม่ได้มีทีท่าว่ากำลังฟังประโยคคำถามของเขาเลย
อะไรล่ะนั่น…
“…เฮ่ แจ็คสัน คุณได้ฟังคำถามของผมเมื่อกี้หรือเปล่าครับ?”
เจ้าของชื่อกะพริบตาปริบ ๆ รอยยิ้มยังคงอยู่บนดวงหน้าหล่อเหลา “ฟังสิ ผมว่าบัสน่าจะดีนะ ถูกกว่าแท็กซี่แล้วยังได้ชมเมืองด้วย ช่วงนี้ก็ไม่ใช่ช่วงเวลาเร่งด่วน รถคงไม่ติดมาก”
เหรอ… มาร์คเหลือบมองการจราจรบนถนนตามที่อีกคนพูด ก่อนจะยักไหล่ “เอางั้นก็ได้ครับ”
พวกเขาตัดสินใจขึ้นรถบัสจากป้ายรถใกล้ ๆ โรงแรม มาร์คโดนบังคับให้นั่งติดหน้าต่างทั้งที่คนอยากเที่ยวคือแจ็คสัน แต่เขาก็ขัดใจอะไรไม่ได้มากหรอก ก็รู้อยู่ว่าเพราะอะไร
รถบัสเคลื่อนตัวไปตามถนนที่ทอดยาวสู่ย่านมิดทาวน์แอนด์เธียเตอร์ดิสทริคท์ ศูนย์รวมจุดท่องเที่ยวขึ้นชื่อของมหานครนิวยอร์ก แจ็คสันละสายตาจากภาพบรรยากาศร่มรื่นของเซนทรัลปาร์คที่ตัดกับตึกระฟ้าสูงชะลูดขณะรถเคลื่อนผ่าน มามองเสี้ยวหน้าของคนที่บอกว่าตัวเองเป็นอเมริกันบอย แต่ยังดูตื่นเต้นเหมือนเด็ก ๆ เมื่อเห็นสิ่งแปลก ๆ เข้ามาในคลองสายตา แล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้
โชคดีที่ที่พักของพวกเขาอยู่ในย่านลีนอกซ์ฮิลล์ซึ่งมีทิศใต้ติดกับมิดทาวน์ ใช้เวลาไม่นานนักรถบัสก็จอดลงใกล้กับแยกอเวนิว 5th ตัดกับถนน 49th สิ่งที่สะดุดตาแจ็คสันคือร้านค้าแบรนด์เนมมากมาย ที่ทำเอาเขาต้องหันมามองหน้ามาร์ค
“…อะไรครับ”
“พาผมมาช็อปปิ้งหรือไง?”
“ไม่ใช่สักหน่อย” มาร์คหัวเราะ “มาทางนี้สิ จริงอยู่ว่าร็อกกี้เฟลเลอร์เซนเตอร์มีร้านค้าเยอะ แต่ผมไม่พาคุณมาซื้อของหรอก ผมจะพาไปดูนิวยอร์กต่างหาก”
คำพูดที่ทำเอาแจ็คสันต้องเลิกคิ้วมองด้วยความสนใจ แต่ก็ยอมเดินตามอีกคนแต่โดยดีโดยไม่ได้ปริปากถามอะไรอีก
ตามสองข้างทางของอาคาร เต็มไปด้วยคำโฆษณา ‘Top of the Rock’ แล้วนั่นก็ทำให้แจ็คสันพอจะคาดเดาอะไรได้
“…จะพาผมไปดูมุมสูงของนิวยอร์กหรือไง?”
คนที่เดินนำอยู่ชะงักฝีเท้าเล็กน้อย ก่อนจะผ่อนลงให้มาเดินข้าง ๆ กัน มาร์คมุ่ยหน้า “เดาถูกด้วย”
“มันเดาไม่ยากนะคุณ…”
“อยากไปดูที่เอ็มไพร์สเตทมากกว่าหรือเปล่า? คือผมคิดว่าคนมันน่าจะเยอะก็เลยพามาที่นี่ คนไม่พลุกพล่านเท่า คุณน่าจะรู้สึกดีกว่า”
คำพูดแสดงความใส่ใจทำเอาคนฟังยิ้มกว้างกว่าเดิม และเพราะรอยยิ้มนั้นมาร์คเลยต้องเร่งฝีเท้าเดินหนี
“อ้าว! เฮ้! มาร์ค ช้า ๆ หน่อย”
ไอดอลหนุ่มได้แต่ก้าวเร็ว ๆ ตามไปโดยที่พยายามกลั้นขำกับท่าทางตลก ๆ ของแฟนคลับของเขา
อืม… น่ารักแฮะ
ชั้นบนสุดของอาคารร็อกกี้เฟลเลอร์เซนเตอร์จัดว่าน่าประทับใจมากสำหรับคนเพิ่งมานิวยอร์กอย่างแจ็คสัน ที่แน่ ๆ เขามั่นใจว่าในโทรศัพท์ตัวเองตอนนี้เต็มไปด้วยภาพจากมุมสูงของมหานครแห่งนี้ และโดยไม่ตั้งใจ กว่าครึ่งเป็นภาพใบหน้าตื่นเต้นของคนที่เขาบังคับให้พามาเที่ยวด้วย ซึ่งเขาบังเอิญถ่ายติด
หรือบางทีเรียกว่าแอบถ่ายอาจจะเหมาะกว่า
รู้หรอกน่าว่าการกระทำแบบนี้มันเข้าข่ายโรคจิตและผิดกฎหมายด้วย แต่พอเห็นท่าทางเหมือนเด็ก ๆ ที่ดูตื่นตาตื่นใจกับทุกอย่างไปเสียหมด ทั้งที่วางท่าเหมือนจะเป็นคนนำเขาเองแบบนั้นแล้ว ก็ทำเอาอดจะหยิบมือถือมาแอบถ่ายรูปไม่ได้
ไหนป๊าบอกว่าแก่กว่าเขาไม่ใช่เหรอ มาร์ค ต้วน น่ะ
ทำไมทำตัวเป็นเด็ก ๆ ไปได้
แถมน่ารักด้วยนะ
“ถ่ายรูปไว้หรือยัง คุณ” มาร์คหันมาถามขณะที่มือทั้งสองข้างยังทาบอยู่กับกระจกใสอย่างไม่อยากผละออก สิ่งที่แจ็คสันค้นพบคือ คุณแฟนคลับคนนี้ไม่กลัวความสูงแน่นอน
“ถ่ายไว้แล้ว คุณล่ะ ให้ผมถ่ายให้ไหม?”
มาร์คชะงัก ส่ายหน้าเล็กน้อย “ผมถ่ายไว้แล้วล่ะ…”
แจ็คสันพยักหน้ารับรู้ มองนักท่องเที่ยวรอบข้างแล้วหันกลับมายิ้มให้มาร์คอีกรอบ
“เซลฟี่ไหม?”
“หะ…หา?”
มาร์ค ต้วน เหมือนสมองช็อตไปอีกรอบ ดวงหน้าเล็กเหมือนจะขึ้นสี ขณะที่ดวงตาเบิกกว้างขึ้น และอ้าปากค้างเหมือนพูดไม่ออก
อืม…น่ารักจริง ๆ ด้วยแฮะ
“…ซะ…เซลฟี่เหรอ? กับใคร? คุณกับผม?”
แจ็คสันหรี่ตา “ใช่สิคุณ ผมมากับคุณจะให้เซลฟี่กับเทพีเสรีภาพเหรอครับ?”
“ถ่ายคนเดียวก็ได้นี่”
“ไม่เอา มา ๆ มาถ่ายด้วยกันเลย”
ไม่ทันได้ตั้งตัว มาร์คก็แขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อใต้สูทแฟชั่นสีเข้มนั่นคว้าไหล่ไปโอบ พร้อมกับได้ยินเสียงนับถอยหลัง พอเขาหันกลับไปอีกคนก็ชิงกดชัตเตอร์ไปก่อน
“…เฮ่ยยยยย”
“โอ้ ไม่เลว ๆ อีกรูปนะคุณ ยิ้มหน่อย ๆ”
ไม่รู้ว่าควรจะรู้สึกอย่างไรก่อนดี ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้มาร์คตื่นเต้นมาก ไม่ใช่แค่ได้มาดูภาพสวย ๆ อันน่าตื่นตาตื่นใจของนิวยอร์ก ตอนนี้เรื่องนั้นน่าตื่นเต้นไม่ได้ครึ่งของสิ่งที่เขากำลังเผชิญ
แจ็คสัน หวัง กำลังเซลฟี่กับเขา
แจ็คสัน หวัง โอบไหล่เขาอยู่
แจ็คสัน หวั—-
ฟหากด่หวสกด่ากห่ดวสกดากดสกาหดาดหก
“มาร์ค… มาร์ค ฮัลโหล? มาร์ค ยังอยู่หรือเปล่าครับ”
เหมือนโดนดึงสติกลับมา ใบหน้าของแจ็คสันอยู่่ห่างจากเขาไปเพียงช่วงแขน แววตาเป็นห่วงทำให้มาร์คแทบจะร้องไห้
ฟินกว่านี้มีอีกไหมในโลก T_____T
“…เป็นอะไรหรือเปล่า? เห็นเงียบไป”
“เปล่า ๆ” มาร์คโบกมือปัดไปมา “ผมแค่ตื่นเต้น”
“ตื่นเต้นอะไร? วิวข้างนอกหรือผม?”
“…” คนโดนถามถึงกับเงียบ ก่อนจะเลี่ยงคำตอบ “คุณถ่ายเสร็จหรือยัง?”
ว่าพลางขยับมืออีกคนออกจากไหล่ตัวเอง ถึงมาร์คจะคลั่งแจ็คสันขนาดที่ว่าตอนนี้อยากกระโดดจากยอดตึกมากแค่ไหนก็เถอะ แต่เขาก็ยังรู้สึกไม่ดีอยู่ดี
รู้สึกเหมือนเอาเปรียบคนอื่นอย่างบอกไม่ถูก T____T
แจ็คสันไม่ได้ว่าอะไรกับการกระทำนั้น เพียงแค่ยิ้มนิด ๆ มุมปากแบบที่ชอบทำแล้วก็หันไปกดมือถือ
มาร์คจะถือว่าช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาแห่งการพักหายใจ โดนคอมโบติด ๆ กันหลายรอบเขาเริ่มทำใจรับไม่ไหว แม้จะแสร้งทำเป็นตื่นเต้นกับบรรยากาศด้านนอก แต่พอนึกได้ว่าตัวเองกำลังมาเที่ยวกับใคร มาร์คยิ่งเก็บความตื่นเต้นไม่ได้
ตื่นเต้นมากเลย ทำไงดี
คำนี้วนอยู่ในหัวเขาเป็นสิบ ๆ รอบ แต่ต้องขอบคุณประสบการณ์การทำงานร่วมกับป๊าต้วนที่ทำให้เขารู้จักเก็บสีหน้า… แม้จะมีหลุดท่าทางเอ๋อ ๆ ออกมาบ้างก็เถอะ ก็ใครเล่นให้พี่ท่านเข้ามาใกล้ขนาดนี้ล่ะ แค่ตอนขอไซน์มาร์คยังจะตายเลย ปกติก็มองแค่ผ่านเลนส์กล้อง
พอมาเจอตัวจริง ๆ แล้วแบบ…
(ไม่สามารถบรรยายความปิติเป็นตัวอักษรได้)
“หลังจากนี้จะไปไหนต่อเหรอ?” แจ็คสันที่ละสายตาจากมือถือหันมาถาม มาร์คหลุดจากภวังค์ความคลั่งของตัวเองกลับมาเป็นมาร์ค ต้วน อเมริกันบอยคนสุขุมคนเดิม
“ไทม์สแควร์ครับ” มาร์คตอบยิ้ม ๆ
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อในย่านมิดทาวน์ย่อมไม่พ้นไทม์สแควร์ ย่านที่อุดมไปด้วยนักท่องเที่ยวหลากหลายเชื้อชาติ ถ้ามองด้วยสายตาคงจำแนกไม่หมด สองข้างทางคือร้านค้ามากมายและนักแสดงข้างถนนที่สร้างสีสันตลอดเส้นถนน แจ็คสันหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายไม่ทันตอนที่สไปเดอร์แมนโหนตัวอยู่บนเสาไฟข้าง ๆ หรือมิกกี้กับมินนี่เมาส์ที่เดินเล่นถ่ายรูปกับเด็กตัวเล็ก ๆ อยู่แทบจะตลอดเวลา
“…เหมือนมีขบวนพาเหรดอยู่ตลอดเลยนะ” แจ็คสันพึมพำให้คนข้าง ๆ ได้ยิน แต่คนที่ปกติจะตอบรับอย่างน้อยก็ในลำคอ กลับเงียบสนิท
พอเขาหันไปมองก็เห็นว่ามาร์คจ้องมองอะไรสักอย่างอยู่ เมื่อมองตามสายตาไปก็พบ…
ไอรอนแมน
ไม่ต้องถามก็รู้ว่ามาร์คคงชอบมาก
“…ให้ผมถ่ายรูปให้ไหม?”
แจ็คสันถาม มาร์คพยักหน้ารับเหมือนไม่มีสติอยู่กับตัว ก่อนจะรีบเดินเข้าไปหาไอรอนแมน พูดคุยกันสองสามประโยคแล้วก็กวักมือเรียกแจ็คสันให้ไปถ่ายรูปให้
ท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ ของคนตรงหน้าทำเอาแจ็คสันหลุดขำจนภาพสั่น แล้วต้องขอถ่ายใหม่อยู่สองรอบ กว่าจะได้ภาพที่พอใจกันทุกฝ่าย มาร์คยื่นทิปให้คุณไอรอนแมนไปตามสมควร ก่อนจะรีบพุ่งมาหาเขา
“ไหน ๆ ขอผมดูรูปหน่อย”
แจ็คสันเลื่อนภาพให้ดู คนตรงหน้าดูตื่นเต้นมากจริง ๆ มือไม้สั่นไปหมด นัยน์ตาก็พราวเป็นประกาย ริมฝีปากพึมพำอะไรที่จับใจความไม่ได้
น่ารัก…
“…เดี๋ยวผมส่งภาพให้ไหม?”
คำถามที่ทำเอาคนกำลังสนใจรูปในมือถือของอีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมามอง นัยน์ตาใสแจ๋วล้อมด้วยแพขนตาหนาจ้องมาทางเขาอย่างงง ๆ
“ก็ได้ครับ…”
“ขอไอดีคาทกหน่อยสิ”
มาร์คหยิบมือถือขึ้นมาเตรียมจะกดเข้าแอปพลิเคชั่นแชทสีเหลือง เห็นอิโมติค่อนหน้าตาน่ารักที่เขาซื้อมาเพราะเห็นว่าเป็นของออฟฟิเชียลของแจ็คสันแล้วก็อดยิ้มนิด ๆ ไม่ได้ ก่อนจะชะงัก
เดี๋ยวนะ
“…คาทกของคุณเหรอ?”
“ครับ?”
แจ็คสันทำหน้างง “อะไรเหรอ?”
“คือว่า” มาร์ครู้สึกเหมือนหัวใจเต้นรัว “ที่ขอไอดีคาทกผมเนี่ย จะส่งรูปให้ใช่ไหมครับ?”
“…ก็ใช่”
“แล้วใช้คาทกส่วนตัวของคุณเหรอ?”
“…ก็ใช่สิครับ”
“…….”
ว้ากกกดฟา่กหดาหก่ดาวกหดกหดาากสาหดาสกดหาด
ยิ่งกว่าคำว่าโชคหล่นทับ ลัคกี้แฟน แฟนคลับผู้โชคดีอันดับหนึ่ง มาร์คอ้าปากค้าง ทำหน้าไม่เชื่อสุดชีวิต
“…ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ มาร์ค มันตลกนะ”
“เอ่อ… ฮะ? ตลกอะไร” มาร์คกะพริบตาปริบ ๆ “…เอ่อ ไอดีคาทกใช่ไหม” ก้มหน้าก้มตาหาไอดีตัวเองทั้งมือสั่น ๆ รู้สึกเลยว่าตอนนี้ปากจะฉีกไปถึงหูแล้ว โธ่ว้อย ใจเย็น ๆ มาร์คต้วน ใจเย็น ๆ
ในที่สุดมาร์คก็ได้ไอดีคาทกของแจ็คสัน หวังมาไว้ในเครื่องจนได้ …เรื่องเหลือเช่ือที่สุดในชีวิต ตอนนี้ของเมื่อวานเขายังรู้สึกว่าอีกคนอยู่ห่างไกลจนเอื้อมไม่ถึง แล้วตอนนี้…
แอบเปิดดูรูปดิสเพลย์ของอีกคนแล้วก็ขำ มันเป็นภาพแจ็คสันที่ไม่ได้เมคอัพ ทำหน้าตลก ๆ อ้าปาก ทำตาโต ชี้ไปที่เมเนเจอร์อิมที่เดินเข้าเฟรมมาพอดี
สักพักเสียงแจ้งเตือนก็ดังมาเป็นชุด คือภาพของมาร์คที่แจ็คสันส่งมาให้นั่นเอง มาร์คมองมือถือแล้วเหลือบไปมองคนที่ก้มหน้าก้มตาส่งรูปให้เขา ก่อนจะอมยิ้มแล้วกดส่งอิโมติค่อน
“…โห สมเป็นแฟนคลับผม มีอิโมติค่อนอันนี้ด้วยเหรอ”
แจ็คสันหันมาหัวเราะใส่เขา มาร์คเกาแก้มแก้เขิน ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเห็นภาพที่อีกคนส่งมาให้เขา
มันคือภาพที่เขาโดนบังคับให้เซลฟี่กับแจ็คสัน
“ถือว่าเป็นแฟนเซอร์วิสก็ได้”
แฟนเซอร์วิส…
เกือบลืมไปเลยว่าโลกนี้มีคำนี้อยู่ มาร์คยิ้มแห้ง ๆ ให้แจ็คสันก่อนจะเก็บมือถือ ข่มความรู้สึกน้อยใจเล็ก ๆ ที่ไม่ควรจะมีลงไป แล้วชี้ไปยังอีกทาง “ไปหาอะไรกินกันเถอะครับ จะเที่ยงแล้ว”
ร้านที่ว่าคือร้านอาหารอิตาเลี่ยนชื่อโอลีฟการ์เด้น ราคากลาง ๆ สำหรับมาร์คกับแจ็คสันอาจจัดได้ว่าค่อนข้างถูก แจ็คสันเลือกที่นั่งติดหน้าต่างและสั่งอาหารเพียงไม่กี่อย่าง มาร์คสั่งเมนูคล้าย ๆ กัน ก่อนจะต่างคนต่างนั่งเงียบ
“…เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“ครับ?”
มาร์คทำหน้างง “หมายถึงอะไร?”
“คุณดูเงียบ ๆ เหนื่อยเหรอ? กลับกันไหม?”
นี่ก็แฟนเซอร์วิสเหรอ? มาร์คคิดข่อนขอดในใจ ก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ แล้วยิ้มกว้างอวดเขี้ยวขาว
“ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย คงเพราะหิวน่ะ กินแล้วไปเที่ยวต่อดีกว่า”
นัยน์ตาคู่คมใต้แว่นกรอบหนามองมาทางเขาอีกครั้ง ก่อนจะพยักหน้ารับรู้ ความเงียบระหว่างพวกเขาดำเนินไปอย่างเชื่องช้าและค่อนข้างจะอึดอัดในความรู้สึกของมาร์ค
แฟนเซอร์วิสเหรอ…
แต่แฟนเซอร์วิสที่ไหนมันจะขนาดนี้?
“…Excuse me?”
เสียงทักจากด้านหลังทำให้มาร์คหันไปมอง ขณะที่แจ็คสันละสายตาจากมือถือไปดู แล้วยิ้มการค้าให้คนที่เพิ่งเข้ามาใหม่
เป็นสาวเอเชียสองคนที่ทำท่าตื่นเต้นสุด ๆ
“…เอ่อ แจ็คสัน หวัง ใช่ไหมคะ?”
สำเนียงภาษาอังกฤษแปร่ง ๆ มาจากคนหนึ่งในนั้น
“ครับ”
สิ้นคำตอบรับ สองสาวปิดปากกระโดดอยู่ข้างหลังมาร์ค… ที่ตอนนี้กำลังทำตัวให้ไม่มีตัวตนที่สุด
“ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ?”
ไอดอลหนุ่มพยักหน้ารับ “เชิญครับ”
สองสาวคงรู้สึกเหมือนได้รางวัลใหญ่ ผลัดกันเซลฟี่กันพอเป็นพิธี แล้วเหมือนพวกเธอเพิ่งจะสังเกตเห็นมาร์คที่นั่งเงียบมานาน
“…เอ่อ…”
“ไม่เป็นไร ถ่ายไปเถอะครับ” มาร์คยิ้มบาง ๆ ให้สองสาวที่ดูจะช็อกไม่น้อย คงรู้สึกเสียมารยาทมาก แต่มาร์คไม่ได้มีปัญหาอะไรสักหน่อย
“…ถ้าอย่างนั้น รบกวน ถ่ายรูปให้หน่อยได้ไหมคะ?”
พูดพร้อมกับยื่นมือถือมาให้ มาร์คเลิกคิ้ว ก่อนจะพยักหน้ารับ
เขาถ่ายรูปสองสาวกับแจ็คสันไปประมาณสี่ห้ารูป กันเสียด้วย (ติดเป็นนิสัยไปแล้ว) พอยื่นให้สองสาวก็ทำหน้าตื่น ๆ
“เอ่อ ขอถ่ายรูปคุณด้วยได้ไหมคะ?”
“…ฮะ?”
ใช้เวลาประมวลผลคำพูดอยู่พักหนึ่ง มาร์คจึงเข้าใจว่าสองสาวขอถ่ายรูปเขา แต่ยังไม่ทันจะตอบรับหรือปฏิเสธ อีกคนที่เมื่อครู่เป็นจุดสนใจสุด ๆ แต่ตอนนี้เหมือนจะถูกลืมไปแล้วก็ขัดขึ้น
“ไม่ได้หรอกครับ เพื่อนผมคนนี้เขาไม่ค่อยอยากออกสื่อน่ะ”
สองสาวมองหน้ากัน “…เพื่อนเหรอคะ?”
ไม่ใช่หรอกครับ เป็นอย่างอื่นน่ะ เขาก็พูดไปงั้น มาร์คบ่นในใจ ก่อนจะยิ้มตอบ “ขอโทษนะครับ คงไม่ได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ” หนึ่งในนั้นส่ายศีรษะดิก “แค่รู้สึกว่าคุณดู… โดดเด่น”
ถ้าโดดเด่นจริงแล้วใครเมินเขาเมื่อกี้วะ
มาร์คยิ้มบาง ๆ “ขอบคุณครับ” พอดีกับที่อาหารมาเสิร์ฟ สองสาวโดนบังคับให้ต้องล่าถอยไปเพราะรบกวนลูกค้าท่านอื่น แจ็คสันมองส่งพวกเธอพลางโบกมือให้ แล้วกลับมาสนใจมาร์คที่จ้องหน้าเขาอยู่
“ทำไมครับ?”
“…แฟนเซอร์วิสเหรอครับ?”
“นิดหน่อยน่ะ เราก็ต้องสร้างภาพลักษณ์เป็นมิตร”
“อึดอัดไหมครับ?”
แจ็คสันหั่นเนื้อหมูพลางตอบ “ก็ไม่นะครับ เลือกจะเป็นแบบนี้แล้วก็ต้องยอมรับเท่านั้นแหละ”
มาร์คพึมพำในลำคออย่างเข้าใจ ก่อนที่เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์จะดังขึ้น
เขาหันไปขอโทษแจ็คสันเล็กน้อย เสียมารยาทพอควรกับการนั่ง ๆ อยู่แล้วมือถือดังแบบนี้ แต่ก็ต้องเปิดอย่างช่วยไม่ได้ แอปพลิเคชั่นที่แจ้งเตือนขึ้นมาคือทวิตเตอร์
Mentioned by @bambam1a: @mtuan93 เห็นยังครับ? twitter.com/…
มาร์คกดเข้าไปดูแล้วก็ต้องชะงัก
ReikaWang @reikajswxx 1m
We’re so lucky! @ari_5428 #jacksonwang #WelcomeJSWangToNYC #JSWangNYC1stFanMeeting
(รูปแจ็คสันกับสองสาวที่เบลอหน้าไว้ด้วยสติกเกอร์หน้าตาน่ารัก)
“…ทำไมทำหน้าแบบนั้นอีกแล้ว?”
คุณแจ็คสัน หวัง ที่นั่งตรงข้ามหันมาถามเขา มาร์คเม้มปาก ก่อนอธิบาย
“คุณไม่ได้เล่นทวิตเตอร์ใช่ไหม?”
“ไม่มีออฟฟิเชียลแอคเคาท์ครับ”
“อื้ม งั้นก็คงไม่รู้…เดี๋ยวนะ” มาร์คชะงัก “…….คุณไม่ได้เล่นทวิตเตอร์ใช่ไหมครับ? ตะกี้ผมถามแบบนี้ใช่ไหม?”
แจ็คสันยิ้ม “ใช่ครับ”
“แต่คุณตอบว่า… คุณมีแอคลับเหรอ?”
คนตรงหน้ายักไหล่ “ไม่อย่างนั้นผมจะตามข่าวแฟน ๆ ได้ยังไงล่ะครับ”
OH MY GOSH
รู้สึกเหมือนได้ล่วงรู้สิ่งที่ไม่ควรรู้ มาร์คลูบหน้าตัวเองเรียกสติ ก่อนจะผ่อนลมหายใจ
“จริง ๆ ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่สองคนเมื่อกี้เขาทวีตภาพที่ถ่ายรูปกับคุณน่ะ” ว่าแล้วก็ยื่นให้ดู “ลองไปตามเซฟเอาทีหลังแล้วกันนะครับ โอโห คนรีเป็นร้อยแล้ว”
แจ็คสันหัวเราะ “คุณเลิกยุ่งกับมันแล้วกินเถอะครับ จะเย็นหมดแล้ว ไหนว่าจะไปเที่ยวต่อ เอ้า กินครับ”
เลื่อนจานมาให้พร้อมกับแบ่งเนื้อบางส่วนของตนมาให้ด้วย มาร์ครีบวางมือถือแล้วก้มหน้าก้มตากิน แอบเหลือบมองคนตรงข้ามเป็นระยะ ๆ ขณะที่ในใจยังเต้นรัว
คิดไม่ผิดจริง ๆ
คิดไม่ผิดจริง ๆ ที่ชอบ…
ใช้เวลาครึ่งวันไปกับมิดทาวน์ หลังจากนั้นมาร์คก็พาไอดอลคนดังอย่างแจ็คสัน หวัง กลับมาเซนทรัลปาร์ค ที่ต้องรีบกลับมาตั้งแต่หัววันเพราะสวนสาธารณะแห่งนี้กว้างขวางมาก ชนิดที่ว่าเดินวันเดียวยังไงก็ไม่มีทางหมด แต่ไหน ๆ ที่พักก็อยู่ไม่ห่างมาก พวกเขาเลยนั่งรถมาจอดแถวอัปเปอร์เวสต์ไซด์ก่อน แวะซื้อคุกกี้ที่ร้าน Levain Bakery ใกล้ ๆ กับแยกอัมสเตอร์ดัม ต่างคนต่างชื่นชมความอร่อยของคุกกี้และอดไม่ได้ที่จะอัพขึ้น SNS อวดชาวโลก
มาร์คกดโพสต์รูปถุงคุกกี้ขึ้นอินสตาแกรม ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ตอบข้อความจากแบมแบม รุ่นน้องที่เขารู้จักในบอร์ดแฟนคลับแจ็คสัน นิ้วเรียวเลื่อนกดเข้าทวิตเตอร์แล้วกดตอบเมนชั่น
Mark Tuan @mtuan93 1m
@bambam1a เห็นแล้ว ขอบคุณที่บอกนะ
ก่อนจะเลิกคิ้วเมื่อเห็นว่าเลขฟอลโลเวอร์ของตนเพิ่มมา มาร์คกดเข้าไปดูแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว
GG followed you
พร้อมกับดิสเพลย์รูปไข่สีขาวบนพื้นหลังสีส้ม ไบโอว่างเปล่า เห็นแค่ชื่อยูสเซอร์เนม jgsg89542 ที่สำคัญล็อกทวิตด้วยนะ
…สงสัยมาฟอลเฉย ๆ มั้ง?
“มาร์คครับ ไปกันเถอะ”
แล้วพวกเขาก็ค่อย ๆ เดินเรื่อย ๆ กันอย่างไม่รีบร้อน มองดูสภาพอาคารบ้านเรือนแถวย่านนี้ กว่าจะถึงเซนทรัลพาร์คก็ใช้เวลาพักใหญ่ และตัดสินใจว่าเดินผ่านที่ไหนก็แวะที่นั่นแล้วกัน
“แต่ผมมีที่ที่ต้องไปให้ได้นะ” มาร์คแนะนำ
“ที่ไหนบ้างล่ะ?”
“ปราสาทเบลเฟเดียร์ บีเทสด้า เดอะมอลล์ โวลล์แมนริงค์...”
“…เยอะเหมือนกันนะ”
มาร์คพยักหน้า “มันน่าไปหมดเลยนี่นา คือต้องไปอะ ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึงเซนทรัลพาร์ค”
แจ็คสันหัวเราะ “โอเค ได้ ไปก็ไป ผมเชื่อคุณอยู่แล้ว”
คนฟังชะงักไปวูบหนึ่ง ก่อนจะเกาหัวอย่างไม่รู้จะแก้อาการเขินยังไง แล้วรีบเดินนำอีกคนไปยังจุดหมายปลายทาง
แจ็คสันและมาร์คเลือกเดินเข้าทางประตูฝั่งตะวันตกของสวนสาธารณะขนาดใหญ่นี้ ซึ่งบังเอิญผ่านสตรอเบอร์รี่ ฟิลด์ หรืออนุสรณ์ของจอห์น เลนนอน นักร้องชื่อดังของวงดนตรีสัญชาติอังกฤษ เดอะ บีทเทิลส์ ซึ่งถูกฆาตกรรมขณะเดินกลับที่พักซึ่งอยู่ตรงข้ามสวนเมื่อปี 1980 บนพื้นหินวาดลวดลายวงกลมสีขาวที่มีอักษรคำว่า IMAGINE เขียนไว้ได้รับการแตกแต่งด้วยใบไม้ที่ร่วงกระจายอยู่เต็มพื้น กลีบกุหลาบและดอกไม้จำนวนไม่น้อยที่วางอยู่ใกล้ ๆ เพื่อระลึกถึงนักร้องชื่อดัง แจ็คสันเห็นมาร์คยืนสงบนิ่งอยู่ใกล้ ๆ กับขอบวงกลมเลยทำตาม ประมาณหนึ่งนาทีมาร์คก็หันมายิ้มน้อย ๆ ให้เขา
“ถ่ายรูปไหมครับ?”
“เอาสิ ผลัดกันถ่ายนะครับ”
มาร์คพยักหน้าหงึกหงัก พวกเขาผลัดกันถ่ายรูปพอเป็นพิธี แล้วส่งให้กันในคาทก ทีนี้แจ็คสันก็ได้ฤกษ์อัปเดต SNS ตนเองสักที
“อ๊ะ” ชายหนุ่มที่เพิ่งกดโพสต์รูปได้ไม่ถึงวินาทีหันไปมองคนข้าง ๆ ที่ส่งเสียงตกใจแปลก ๆ มาร์คเหมือนจะรู้ตัวว่าเผลอทำอะไรเปิ่น ๆ ไปเลยรีบร้อนยกมือปิดปาก ก้มหน้าก้มตาขอโทษเขา แล้วควานหยิบมือถือในกระเป๋าตัวเองมาดู ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ
มันคือภาพลานกว้างแห่งนี้ที่ไม่มีแจ็คสันอยู่ในรูป
Strawberry Fields – Central Park 2s
jacksonwang852g7 Let me take you down
Cause I’m going to Strawberry Fields
Nothing is real
And nothing to get hung about
Strawberry Fields forever
– The Beatles –
🙂 #JohnLennon #TheBeatles #StrawberryFields #CentralPark #NewYork #USA #Manhattan
“คุณชอบเดอะบีทเทิลส์เหรอครับ?” มาร์คอดถามไม่ได้ แน่นอนว่าเขากดแคปหน้าจอไอจีของแจ็คสันไว้แล้วเรียบร้อย ได้ยินเสียงแจ็คสันตอบกลับมาว่า “ชอบสิครับ คุณไม่ชอบหรือไง?”
“I can’t believe
That she would leave
Me on my own
It’s just not right
Where every night
I’m all alone”
มาร์คตอบเป็นทำนองเพลงสั้น ๆ ที่พอคนฟังได้ยินถึงกับตาโต
“Don’t bother me?”
“นั่นว่าผมอยู่หรืออะไรครับ”
“หมายถึงชื่อเพลงสิ” แจ็คสันหัวเราะกับมุกตลกของมาร์ค แน่นอนว่าอีกคนก็หัวเราะกับมุกของตัวเองเช่นกัน
ลมอุ่น ๆ บ่งบอกสภาพอากาศที่เริ่มเข้าสู่ฤดูใบ้ไม้ผลิของนิวยอร์กพัดผ่านขณะพวกเขาพากันเดินลงมาทางทิศใต้และเดินไปตามทางเดินที่เรียกว่า Terrace Dr มองร่มเงาของต้นไม้สูงสองข้างทางจนมาถึงหนึ่งในสถานที่ที่มาร์คบอกว่าอยากจะมาให้ได้
ลานกว้างสีอิฐที่เป็นขั้นบันไดไล่ระดับลงไปหนึ่งชั้น ตรงกลางคือสระน้ำพุรูปวงกลม ที่ตรงกลางคือรูปปั้นบรอนซ์ของนางฟ้าบีเทสด้าที่ยืนเด่นเป็นสง่าสยายปีกอยู่ตรงกลาง
“น้ำพุบีเทสด้า!” คนที่อยากมานักหนาแทบจะกระโดดโลดเต้น สีหน้าดีใจที่ปิดไม่มิดทำให้นักท่องเที่ยวตัวจริงอมยิ้ม
“ทำไมถึงอยากมานักล่ะ มาร์ค”
“เขาบอกว่า ถ้ามาไม่ถึงที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงนิวยอร์กน่ะครับ”
“เขาไหนกัน?”
แจ็คสันถามไปอย่างนั้น เพราะอีกคนไม่รอฟังเขาแล้วรีบเดินเร็ว ๆ ลงบันไดไปแล้ว แจ็คสันรีบสาวเท้าตาม ชักสงสัยว่าตกลงใครพาใครเที่ยวกันแน่
ก่อนถึงลานน้ำพุมีสิ่งก่อสร้างที่เรียกว่า ระเบียงบีเทสด้า อยู่ สิ่งก่อสร้างสูงสองชั้นที่ด้านบนเป็นสถานที่สำหรับชมน้ำพุ และด้านล่างเป็นซุ้มประตูสวยงามสไตล์ตะวันตก และแน่นอนว่ามาร์คไม่พลาดจะวิ่งเข้าไปถ่ายรูป
น่ารัก
แจ็คสันพึมพำคำนี้อยู่ในใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่ของวันก็ไม่ทราบ
ท่าทางร่าเริงมีความสุขเกินพิกัดของคนที่บอกว่าตัวเองเป็นแฟนคลับเขา แต่ทำตัวเป็นธรรมชาติอย่างไม่น่าเชื่อทำให้แจ็คสันอดยกมือถือมาถ่ายอีกคนอีกรอบไม่ได้ ดูทำหน้าเข้าสิ ทำแก้มป่อง ๆ แบบนั้นมันน่าฟัดมากเลยรู้ไหม
…………แล้วเขาก็เอาแต่ยืนยิ้มอยู่เนี่ย
ผลัดกันถ่ายรูปไปเยอะอย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขาต่างก็ไม่มีใครพกกล้องถ่ายรูปมา คิดว่ามีแค่มือถือก็พอ แต่ตอนนี้มาร์คชักเสียดายแล้ว ฟ้าสวย ๆ แบบนี้ถ้าได้่ถ่ายรูปแจ็คสันกับสถานที่แบบนี้คงดี
ว่าแล้วก็อดถามคนข้าง ๆ อย่างเกรงใจไม่ได้
“แจ็คสันครับ…”
คนโดนเรียกเลิกคิ้วขณะมือยังไล่ดูรูปในโทรศัพท์ “ว่าไงครับ?”
“ที่บอกว่าจะให้ถ่ายรูปอะ ผมขอตรงนี้รูปนึงได้ไหม?”
แจ็คสันพยักหน้า “ได้สิ จริง ๆ คุณจะถ่ายกี่รูปผมก็ไม่ว่าหรอก ถือว่าแลกเปลี่ยนที่ให้คุณต้องมาวุ่นวายดูแลผมทั้งวันนี้แล้วกัน”
มาร์คส่ายหน้าช้า ๆ “ผมไม่ได้วุ่นวายอะไรสักหน่อย”
“เหรอครับ” แจ็คสันกดล็อกหน้าจอ ก่อนยิ้มกว้าง “งั้นก็ถ่ายเถอะ มีที่ที่อยากไปอีกไม่ใช่เหรอครับ?”
แฟนไซต์ในคราบนักท่องเที่ยวธรรมดาบอกให้แจ็คสันยืนอยู่ตรงลานระหว่างน้ำพุกับระเบียงบีเทสด้า ก่อนตัวเองจะวิ่งเข้าไปด้านในตัวระเบียง แจ็คสันเลิกคิ้วมองการกระทำนั้นอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เขายืนชมนกชมไม้ มองคนที่เดินผ่านไปผ่านมาอยู่สักพัก แล้วมาร์คก็วิ่งกลับมา
“…ไปไหนมาครับ จะถ่ายหรือยัง?”
มาร์คยิ้มกว้าง อวดเขี้ยวขาวที่แจ็คสันเพิ่งสังเกตเห็นว่ามันเหมาะกับคนตรงหน้าอย่างประหลาด “เสร็จแล้วครับ”
“เอ๊ะ?”
มาร์คเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์ให้ดู พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงอวด ๆ “โชคดีที่ผมเอาเลนส์เสริมสำหรับมือถือมาด้วย ภาพก็ออกมาไม่เลว แต่ถ้าได้กล้องคงดีกว่านี้”
ภาพแจ็คสันที่ยืนเหม่อมองอยู่กลางลานน้ำพุดูราวกับภาพจากภาพยนตร์สักเรื่อง องค์ประกอบภาพที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อส่งให้รูปนี้ดูสวยเกินกว่าจะถ่ายจากกล้องมือถือ
“…แค่นี้ก็เยี่ยมแล้วล่ะครับ ผมขอรูปบ้างได้ไหม”
มาร์คชะงัก พยักหน้าน้อย ๆ ก้มหน้าก้มตาส่งรูปให้เขาในคาทก
และแจ็คสันก็ทันเห็นใบหูขาว ๆ ที่ขึ้นสีแดง ๆ นั่นด้วย
ชายหนุ่มอมยิ้ม
น่ารักจังเลยน้า มาร์ค ต้วน เนี่ย
ตั้งใจว่าจะเดินเที่ยวต่อ แต่กว่าจะหาสถานที่ต่อไปได้ก็ไกลเกินกว่าจะเดินด้วยเท้า ครั้นจะหาจักรยานเช่าสถานที่เช่าก็อยู่ห่างชนิดที่ว่ากลับโรงแรมเลยคงดีกว่า สุดท้ายแจ็คสันกับมาร์คก็ตัดสินใจโดยสารรถแท็กซี่คันหนึ่งกลับโรงแรมของตน ไม่ใช่ว่าไม่อยากเที่ยวต่อ แต่ฟ้าที่เริ่มมืดลงและคนที่เริ่มพลุกพล่านทำให้พวกเขาคิดว่า แค่นี้ก็โอเคแล้ว
“เสียดายที่ไม่ได้ไปตั้งหลายที่” มาร์คพึมพำ ดวงหน้าหวานมุ่ยลงเล็กน้อย ก่อนจะหันมายิ้มแห้ง ๆ ให้แจ็คสัน “ขอโทษด้วยนะครับ ผมเป็นไกด์ที่วางแผนเที่ยวไม่ได้เรื่องเลย”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” แจ็คสันยิ้มกว้าง “แค่นี้ผมก็ดีใจมากแล้ว”
“ที่ได้มาเที่ยวนิวยอร์กเหรอครับ?”
“ครับ” นัยน์ตาคมเหลือบมามองเขา ก่อนจะเบนไปมองนอกรถ พึมพำเสียงแผ่ว “…กับคุณ”
“…ครับ?” มาร์คได้ยินไม่ชัด “ว่าอะไรนะครับ?”
“ไม่มีอะไรครับ” แจ็คสันยิ้มขำ “มีรูปอะไรที่คุณยังไม่ส่งให้ผมหรือเปล่า?”
“ส่งหมดแล้วล่ะครับ คุณเถอะ คงไม่ได้แอบถ่ายอะไรผมไว้ใช่ไหม?”
มาร์คแซวขำ ๆ ขณะที่คนโดนแซวหัวเราะเบา ๆ ไม่กล้ายอมรับหรอกว่าตัวเองถ่ายรูปอีกฝ่ายไว้จริง ๆ เยอะด้วย
แต่ขืนมาร์ครู้คงไม่ดี
“วันนี้ SNS ของแจ็คสัน หวัง คงมีแต่รูป” มาร์คยิ้ม “ผมจะรอไลค์รอเมนท์นะครับ”
แจ็คสันมองรอยยิ้มนั้นแล้วได้แต่พยักหน้ารับ ก่อนจะเบือนสายตากลับไปมองนิวยอร์กที่กำลังอยู่ใต้ท้องฟ้าสีส้มแดง
ให้ตายเถอะ
ทำไมต้องน่ารักขนาดนี้ด้วย
แจ็คสันทิ้งตัวลงกับเตียงทันทีที่ถึงห้องพัก อิมแจบอมถือวิสาสะเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วเอ่ยถามเสียงดัง “กินอะไรตอนเย็นหรือยัง”
“ยังอะ พอดีรีบ ๆ”
“เออ สมควรรีบอยู่หรอก เห็นมีแฟนคลับเจอด้วยนี่”
แจ็คสันพึมพำในลำคอไม่ยอมตอบ พอแจบอมเดินเข้ามาจึงเห็นว่าไอดอลหนุ่มที่อยู่ในความดูแลของตัวเองนอนตะแคงข้างเล่นมือถืออยู่
“…เป็นไร”
“…เปล่า”
“แน่ใจ?”
“อืม”
อิมแจบอมหรี่ตา
“แล้วคุณต้วนคนลูกเป็นยังไงบ้าง ชื่อมาร์คใช่ไหม ฉันจำได้ว่าเคยเห็นหน้าเขาในงานแฟนไซต์นาย เป็นแฟนคลับเหรอ?”
แจ็คสันละสายตาจากมือถือไปจ้องหน้าผู้จัดการของตนเอง “เขาเป็นแฟนคลับฉันเอง”
“น่ารักดีนะ”
“ใช่ไหม?” แจ็คสันผุดลุกขึ้นมาทันที “ตอนแรกนึกว่าคิดไปเอง แต่เขาน่ารักมาก ๆ อะ แบบ อยู่ใกล้ ๆ แล้วรู้สึกใจสั่นเลย ไม่เคยเป็นแบบนี้เลยนะ ขนาดตอนแสดงกับพี่ซอนมียังไม่รู้สึกเลย”
พูดจบก็นั่งทำหน้าเพ้อไปพักหนึ่ง แล้วทิ้งตัวลงไปนอนอีกรอบ
“…….อย่าบอกนะว่าที่เป็นแบบนี้เพราะมาร์ค ต้วน”
เสียงแจบอมบ่งบอกความระอาขั้นสุด จนแจ็คสันต้องขมวดคิ้ว ทั้งที่ตามองเพดานห้อง “แบบนี้นี่แบบไหน”
“ท่าทางเหมือนคนเพ้อรัก”
“………ฉันเป็นแบบนั้นเหรอ”
“ส่องกระจกดูดิ”
พูดจบก็เดินออกจากห้องไปเลย แต่ก่อนออกก็ทิ้งท้ายไว้ “เดี๋ยวฉันบอกรูมเซอร์วิสให้เอาอาหารขึ้นมาให้”
แจ็คสัน หวัง นอนมองเพดานห้องที่ตกแต่งอย่างสวยงามอยู่อีกพักใหญ่ ก่อนจะคว้ามือถือขึ้นมา แล้วผุดลุกนั่งบนเตียงดี ๆ มือกดจิ้มโทรศัพท์อย่างตั้งใจ
เมื่อมาร์ค ต้วน มาถึงห้อง สิ่งแรกที่เขาทำคือกระโดดลงเตียง
เอาหน้าซุกหมอน แล้วโวยวาย
“โอ๊ยยยฟยดฟหา่ดาวกดสาดกดา อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”
เอาหมอนปิดหน้าตัวเองแล้วกลิ้งไปมารอบเตียงอยู่สามสี่รอบ เขาไม่แคร์ถ้าจะมีคนว่าเขาบ้า เพราะตอนนี้ไม่มีใครในห้องนอกจากเขา
จนรู้สึกสะใจแล้วเลยเงยหน้าขึ้นมา นั่งข้างเตียง แล้วถอนหายใจยาว
ชายหนุ่มมองนาฬิกา จะทุ่มนึงแล้ว เขาควรจะสั่งรูมเซอร์วิสขึ้นมากินดินเนอร์ แต่ตอนนี้บอกเลยว่า ไม่หิว
มีความสุขจนอิ่มไปหมด
จะทำเป็นไม่ได้ยินประโยคแฟนเซอร์วิสอะไรนั่น เพราะถึงจะแฟนเซอร์วิสจริงมาร์คก็ไม่สนอีกแล้ว เขาอยากจะเมาท์กับกลุ่มเพื่อนแฟนคลับด้วยกันถึงประสบการณ์ล้ำค่าที่ได้เจอววันนี้มาก แต่สิ่งที่ทำได้มีเพียงแค่เปิดโทรศัพท์มือถือแล้วกดโทร.หาพี่สาวสุดที่รัก
“…ฮัลโหล? โทร.มาทำไม ฉันเลี้ยงลูกอยู่”
“นี่คือคำทักทายของพี่สาวใช่ไหม?” มาร์คถอนหายใจ แต่ยังอารมณ์ดีเกินกว่าจะใส่ใจกับเรื่องแค่นี้ “พี่แทมมี่ มาร์คมีความสุขมากเลยอะ ทำไงดี”
“…….แป๊บนะ — ฝากดูไลลาหน่อย — เอ้อ ว่ามา เป็นอะไร”
ได้ยินปลายสายคุยกับสามี ขณะที่มือข้างหนึ่งเอื้อมไปคว้าหมอนมากอดอย่างเคยชิน คางแนบขอบนุ่ม ๆ ของหมอน มาร์คเอ่ยเสียงเจื้อยแจ้วที่คนฟังรู้สึกเลยว่า อีกฝ่ายมีความสุขอย่างปากว่าจริง ๆ
“พรุ่งนี้มีแฟนมีตแจ็คสันที่นิวยอร์ก”
“อืม รู้แล้ว และแกก็อยู่ที่นั่น แล้วทำไม”
“คือว่า… เห็นที่แจ็คสันอัปรูปวันนี้ไหม”
“เห็น ที่เซนทรัลปาร์คใช่ไหม?”
“…อืม”
“ทำไม”
“…มาร์คถ่ายเองแหละ”
“……………………………อะไรนะ?”
ชายหนุ่มลงไปนอนกับเตียง “มาร์คเป็นคนถ่ายรูปนั้นเอง”
“…เดี๋ยว หมายความว่าไงวะ เขาเอารูปแฟนไซต์แกมาลงเหรอ? ก็ไหนว่าวันนี้ไม่ตาม?”
“ไม่ใช่” มาร์คกลอกตา “คือจริง ๆ แล้ว แจ็คสันเป็นลูกเพื่อนป๊าต้วน”
“……………………………ตลกแล้ว”
“เรื่องจริง” มาร์คเอ่ยเสียงหนักแน่น แล้วเริ่มเล่าให้พี่สาวแท้ ๆ ฟัง
“……แก แก… ไอ้มาร์ค โอ๊ยยยยยยย ฉันฟินแทนนนนนนนนน แก ฉันแบบ — ไลลา อย่าเพิ่งยุ่งกับแม่ลูก แม่คุยกับอามาร์คอยู่ — อามาร์ค อามาร์ค — ไลลาจ๊ะ… มาร์ค แค่นี้ก่อนนะ”
ได้ยินเสียงเล็ก ๆ ของหลานสาวแล้วมาร์คอดยิ้มตามไม่ได้ “ได้ ๆ ไว้ค่อยคุยกันก็ได้”
“เออ ๆ โชคดีนะ”
แทมมี่วางสายไปแล้ว แต่มาร์คยังคงนอนมองเพดานห้องที่ประดับอย่างสวยงามอยู่ จนได้ยินเสียงแจ้งเตือนมือถือดัง
jacksonwang852g7 just posted a video.
มือเรียวกดเข้าไปดูทันที
ภาพลานกว้างในสตรอเบอร์รี่ ฟิลด์ ขึ้นมาเป็นภาพแรก ก่อนจะตัดไปเป็นทางเดินในเซนทรัลปาร์ค มาร์ครู้สึกหน้าร้อนวูบเมื่อเห็นว่าแผ่นหลังของคนที่แจ็คสันกำลังเดินตามคือตน ได้ยินเสียงตัวเองแทรกเข้ามาด้วย แต่ไม่เห็นหน้า แล้วภาพก็ตัดไปเป็นบีเทสด้า บรรยากาศรอบ ๆ ลานน้ำพุ และก็เห็นอีกไกล ๆ ว่ามีเขาวิ่งไปวิ่งมาถ่ายรูปอยู่แถวนั้น ก่อนจะสิ้นสุดที่รูปแจ็คสันหวังเซลฟี่ตัวเองส่งท้ายคลิป
♥︎ 626 likes
jacksonwang852g7 THE BEST DAY EVER IN NYC. THANK YOU. See ya tmr. #jacksonwang #nyc #JSWangNYC1stFanMeeting
bambam1a Enjoy your trip!
yu_gyeom miss you!
ชายหนุ่มอ้าปากพะงาบ ๆ ทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะตัดสินใจกดไลค์ แล้วคอมเมนต์
jswang94 Welcome to NYC. See ya 🙂
คืนนี้คงเป็นคืนที่เขาฝันดีที่สุดในโลก
TBC