Painful – Jackson x Mark

Jackson x Mark

PAINFUL

 

ความกระวนกระวายแล่นพล่านไปทั่วจนมาร์คแทบนั่งไม่ติดเตียง มือสองข้างบีบประสานกันแน่นเป็นพัก ๆ พลางพยายามหายใจช้า ๆ เพื่อให้ตัวเองใจเย็นลง รู้สึกได้ถึงความเครียดตึงที่หว่างคิ้วและขมับ ริมฝีปากถูกฟันขาวขบเม้มด้วยความกังวลจนจินยองที่มองอยู่ต้องเตือน

 

“พี่ ใจเย็นก่อน”

 

มาร์คเหลือบหางตามอง ก่อนจะถอนหายใจ “พยายามอยู่”

 

แต่ยากเหลือเกิน

 

ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องรู้สึกแบบนี้ไปอีกกี่ครั้ง และแต่ละครั้งจะใช้เวลานานเท่าไหร่ แต่มาร์คในตอนนี้อยากพุ่งตัวออกจากโรงแรมไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเหลือเกิน… โรงพยาบาลที่แจ็คสันรับการตรวจอยู่

 

‘รถของแจ็คสันโดนชนตอนออกจากโรงแรมไปสนามบิน’

 

ประโยคจากผู้จัดการทำให้พวกเขาที่นั่งอยู่ในเกตสนามบินแล้วอึ้งไปตาม ๆ กัน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรอ ทางแจ็คสันก็เหมือนกัน มาร์ครู้เรื่องเพียงว่าแจ็คสันเจ็บช่วงเอว และยังตรวจไม่ได้จนกว่าจะถึงญี่ปุ่น และตอนนี้พวกเขาก็ได้แต่รอให้อีกฝ่ายกลับมาที่โรงแรม

 

ขอร้องล่ะ…

 

อย่าเป็นอะไรไปมากกว่านี้เลย

 

ทันใดนั้นประตูห้องที่เขากับจินยองอยู่ก็มีเสียงเคาะดังขึ้น พวกเขาหันไปมอง ประตูเปิดออกพร้อมกับพี่ผู้จัดการที่กลับมากับแจ็คสัน ตามด้วยแจ็คสัน แบมแบม ยูกยอม แจบอมและยองแจที่ตามมาอย่างกังวล

 

“แจ็คสัน!”

 

จินยองรีบพรวดพราดเข้าไปหาก่อนทั้งที่เมื่อครู่บอกให้มาร์คใจเย็น จากของชื่อยิ้มแห้ง ๆ ก่อนจะพึมพำว่าไม่เป็นไรเบา ๆ พอให้ได้ยิน

 

มาร์คมองภาพตรงหน้านิ่ง

 

เขาเห็นรอยยิ้มของแจ็คสัน รอยยิ้มกว้างที่เกิดจากความดีใจที่พวกเขาได้เจอกันอีกครั้งหลังจากไม่เห็นหน้ากันหลายวัน ดวงหน้าคมมีริ้วรอยอ่อนล้าทุกครั้งที่ตารางงานแน่น มือข้างหนึ่งจับบั้นเอวของตนอย่างระมัดระวัง

 

มาร์คเผลอกัดริมฝีปากอีกแล้ว

 

“เดี๋ยวฉันขอคุยกับมาร์คหน่อยนะ” แจ็คสันบอกทุกคน คนที่เหลือมองหน้ากันแล้วถอยออกจากห้องไปอย่างรู้งาน เมื่อประตูปิดลง คนที่นั่งอยู่นานก็ลุกขึ้น

 

“มาร์ค…”

 

เจ้าของชื่อเงียบไม่ตอบ แต่ก้าวไปหาคนเรียกช้า ๆ นัยน์ตาร้อนผ่าวไปหมด มาร์คอยากร้องไห้ อยากโวยวายให้ขาดใจตายไปเลย แต่ที่ทำได้มีเพียงเดินเข้าไปแล้วลูบข้อมืออีกฝ่ายที่จับเอวอยู่อย่างแผ่วเบา

 

เขากลัวไปหมด

 

“…ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

 

“อืม” แจ็คสันตอบยิ้ม ๆ “อย่าทำหน้าแบบนั้น”

 

มาร์คไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้ายังไงหรอก แต่แจ็คสันก็ยื่นมือมาลูบแก้มเขาเบา ๆ เขาถึงเพิ่งรู้ว่าบนใบหน้าตัวเองมีน้ำตา

 

“…เจ็บมากไหม?”

 

“นิดหน่อยน่า”

 

“โกหก”

 

“ถ้าบอกว่าเจ็บมากนายจะทำยังไง?”

 

มาร์คมองจ้องตอบนัยน์ตาโตที่มองเขา ก่อนจะค่อย ๆ ยื่นแขนไปโอบอีกฝ่ายไว้หลวม ๆ เขากอดเบา ๆ ซบหน้าลงกับช่วงไหล่หนา…

 

กลัวเหลือเกิน กลัวว่าจะเจ็บกันไปมากกว่านี้

 

“…ไม่โอเคเลย มันเกิดอะไรขึ้น”

 

“อุบัติเหตุน่า” แจ็คสันยกมือข้างหนึ่งขึ้นลูบผมเขาเบา ๆ “ไม่มีใครอยากให้มันเกิดหรอก”

 

“ฝีมือใคร?”

 

เสียงเข้มขึ้นอีกนิด แต่พอได้ยินเสียงถอนหายใจของแจ็คสัน มาร์คก็เข้าใจทันที

 

“…แฟน ไม่สิ พวกซาแซงเหรอ?”

 

“มาร์ค…”

 

“ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง นายก็ต้องเจ็บแบบนี้ไปเรื่อย ๆ นะ”

 

“มันเป็นอุบัติเหตุไง”

 

“แล้วถ้านายไม่ได้โชคดีแบบวันนี้ล่ะ?” มาร์คเอ่ยเสียงสั่น “ถ้าเป็นแบบนั้น… ฉันจะทำยังไง?”

 

แจ็คสันเงียบ อีกฝ่ายคงตอบไม่ได้หรอก มาร์ครู้ดี ถึงแจ็คสันจะพูดเก่งแค่ไหน แต่กับคำถามนี้คงไม่มีใครตอบได้

 

เพราะพวกเขารู้ดีว่า อีกฝ่ายสำคัญมากแค่ไหน มากกว่าในฐานะเม็มเบอร์ เพื่อน หรือรูมเมต

 

เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้แก่กันและกัน

 

“…คราวหน้าไม่เอาแบบนี้แล้วนะ” มาร์คปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างรวดเร็ว เสียงกลับมานิ่งเหมือนเดิม “หัดขาดเข็มขัดซะด้วย ทำไมไม่ชอบคาดฮะ”

 

“คราวหน้าจะคาดทันทีที่ขึ้นรถเลย ตกลงไหม?”

 

มาร์คถอนหายใจ “แล้วคอนเสิร์ตพรุ่งนี้ล่ะ?”

 

“ก็คงขึ้นแหละ” แจ็คสันยิ้ม ก่อนจะรีบอธิบายต่อเมื่อเห็นคนตรงหน้าทำท่าจะไม่ยอม “ก็แฟน ๆ อยากมาเจอฉันนี่นา ถ้าฉันไม่ขึ้นไม่ผิดหวังแย่เหรอ ค่าบัตรมันแพงนะ”

 

“…”

 

“ช่วยดูแลฉันหน่อยแล้วกัน”

 

คนฟังได้แต่แนบหน้าผากลงกับต้นคออีกฝ่าย พรูลมหายใจใส่อย่างคนไร้ความสามารถจะหักห้ามอะไรได้

 

ก็เป็นซะแบบนี้

 

“เป็นห่วงมากนะ รู้ใช่ไหม?”

 

“อืม”

 

“ไม่ใช่แค่ฉันหรอก ทุกคนเลย แฟน ๆ ก็ด้วย”

 

“…อืม”

 

“ถ้าเจ็บก็บอกฉันนะ ถึงจะไม่บอกแฟน ๆ แต่ต้องบอกฉันนะ”

 

“โอเค ฉันจะรีบเรียกหานายเลย ตกลงไหม?”

 

แจ็คสันลูบผมเขาเบา ๆ อีกครั้ง ก่อนจะตบเบา ๆ สองสามทีเหมือนกล่อมเด็กแล้วผละออก มาร์คมองหน้าอีกฝ่ายนิ่ง ก่อนจะยกแขนขึ้นโอบรอบต้นคอหนา ประสานสายตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร

 

“ฉันเหนื่อย รู้ไหม?”

 

“หืม?”

 

“ไม่ได้เหนื่อยกายแบบนาย แต่เหนื่อยใจ”

 

“อ่อ…” แจ็คสันพึมพำ พลางจุดยิ้มบางที่มุมปาก

 

“อย่าเป็นแบบนี้บ่อย ๆ เลย นายไม่รู้หรอกว่าเวลาใจสลายมันเป็นยังไง”

 

“ขอโทษนะ”

 

“ม้ารู้หรือยัง?”

 

“รู้แล้วล่ะ…”

 

“…ร้องไห้เลยล่ะสิ”

 

“อืม แถมพูดเหมือนที่นายพูดเลยด้วย”

 

มาร์คมองอีกฝ่ายที่เริ่มตาแดงขึ้นมาบ้าง พอพูดเรื่องครอบครัว แจ็คสันที่เข้มแข็งเสมอก็มักจะอ่อนไหวขึ้นมาทันที

 

“แต่บอกไปแล้วว่าไม่ต้องห่วง ยังไงก็มีพวกนายอยู่”

 

“อืม…”

 

มาร์คกอดอีกฝ่ายอีกครั้ง ก่อนจะผละออกมายืนตรงข้าม พวกเขายังคงประสานสายตาต่อกัน แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น

 

“พักผ่อนเยอะ ๆ รู้ไหม?”

 

เขากำชับอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกจากห้องไปโดยไม่ฟังอะไรอีก สับเท้าเร็ว ๆ ไปที่ห้องของแบมแบม ห้องที่พวกเม็มเบอร์ที่เหลือรออยู่

 

พอเปิดประตูเข้าไป พี่ใหญ่ของวงก็ไปนั่งร้องไห้โฮใส่พวกรุ่นน้อง สะอึกสะอื้อนเหมือนเด็กน้อยจนทุกคนต้องแห่กันปลอบ

 

ส่วนตัวต้นเรื่องก็ได้แต่นอนพักอยู่ที่ห้องไม่รู้เรื่องอะไรเหมือนเดิม

 

เพราะมาร์คไม่อยากให้แจ็คสันเห็นหรอกว่า เวลาแจ็คสันเจ็บ เขาก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน

 

ไม่ใช่ที่ร่างกายหรอก แต่เป็นที่ใจต่างหาก

 

FIN

 

20160902

 

ว่าจะไม่พูดถึงแล้ว แต่ก็อดไม่ได้จริง ๆ ค่ะ

เห้อ…