#SunshineYoungjaeDay
#ชอลแจน
by Wirunyupha
วันที่ 17 กันยายน ปี 2016 เป็นวันเสาร์
ที่โชคดีกว่านั้นคือเป็นวันหยุดต่อเนื่องมาจากเทศกาลชูซอก แปลว่าฮอนชอลมีเตรียมตัวให้พร้อมก่อนจะใช้เวลาอยู่กับเจ้าของวันเกิดแก้มกลมวันนี้ และยาวไปถึงเช้าวันพรุ่งนี้ได้สบาย ๆ
แต่ถึงจะมีเวลามากมาย ฮอนชอลก็ไม่ได้มีอะไรเตรียมให้น้องคนนั้นมากไปกว่าเค้กก้อนเล็กและของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ หรอก เขาไม่ใช่คนโรแมนติก แถมโดนตราหน้าว่าเป็นคนดิบเถื่อนในบางครั้งอีกต่างหาก
เขาคงโกรธหรอก ถ้าคนพูดไม่ได้พูดมันด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนดอกทานตะวันที่เงยหน้ารับแสงอาทิตย์ขนาดนั้น
เวลาสองทุ่มในร้านอาหารเล็ก ๆ ที่โชคดีมีห้องส่วนตัวให้ แม้มันจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็ดูเหมาะกับสไตล์ของเขาและน้องดี ห้องมืด ๆ ที่ประดับประดาด้วยไฟระโยงระยางพอให้มีแสง ฮอนชอลสั่งไวน์ไว้ขวดหนึ่ง และอาหารเบา ๆ พอให้ค่ำคืนนี้น่าจดจำ
ถึงน้องจะเคยบอกเขาว่า ต่อให้กินข้าวกันในห้องนอนเก่า ๆ ของเขา น้องก็ยังรู้สึกว่ามันน่าจดจำอยู่ดีก็เถอะ
ก็ให้ความสำคัญกับเขาขนาดนี้ จะให้เขาทำตัวยังไงล่ะ
ตอนสองทุ่มสิบห้านาที ประตูห้องส่วนตัวเปิดออก คนที่เยี่ยมหน้าเข้ามาคือคนที่เขากำลังคิดถึง เจ้าน้องแก้มกลมตายิบหยีที่ชอบสวมหมวกปีกกว้าง และวันนี้สวมเสื้อแขนยาวสีดำลายขาวที่ชอบนักหนา
“พี่ฮอนชอล”
เอ่ยเรียกชื่อเขาเป็นคำทักทาย ก่อนจะถลาเข้ามากอดเขาเต็มแรง ฮอนชอลรับน้ำหนักนั้นไว้อย่างยินดี เจ้าเด็กหมูของเขาผอมลงมาก แว่ว ๆ ว่าใกล้จะคัมแบ็ก กลิ่นหอมจากน้ำหอมของอีกคนทำให้เขากดจมูกลงกับกลุ่มผมนิ่มเบา ๆ
“ยองแจ ไม่เจอกันนานเลย”
เด็กน้อยของเขาผละออก เบะปากอย่างไม่ค่อยพอใจ “ใช่สิ ก็ดูพี่ทำ จะให้เจอกันตอนไหนเหรอ?”
“ขอโทษนะ”
ยองแจถอนหายใจ “ช่างมันเถอะพี่ วันนี้ไม่ได้จะมาคุยเรื่องเครียด ๆ สักหน่อย” ว่าพลางขยับตัวออกไปเล็กน้อย แล้วนั่งห่างจากเขาออกไปไม่กี่นิ้ว
“ไม่นั่งฝั่งตรงข้ามเหรอ?”
“ไม่อะ” เด็กแก้มกลมตอบหน้าตาย “จะนั่งข้างพี่”
ฮอนชอลหลุดขำ ก่อนจะรินไวน์ใส่แก้วอีกฝ่ายให้
พวกเขานั่งกินกันเงียบ ๆ แต่ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไร ฮอนชอลรู้ว่าจริง ๆ แล้วยองแจไม่ได้พูดเก่งอะไรมากมาย ก็เป็นเด็กธรรมดาที่มีมุมอยากเมาท์มอย และอยากนั่งเงียบ ๆ เหมือนกัน
อยู่กับเขายองแจไม่ต้องทำอะไรเลย
แค่เป็นตัวของตัวเอง
“นี่” ยองแจโพล่งขึ้นมา “พี่รู้ไหมว่านอกจากวันเกิดผมแล้ว วันนี้เป็นวันอะไร?”
ฮอนชอลเลิกคิ้ว คิดอยู่ครู่หนึ่งก็ส่ายหน้า “ไม่รู้สิ”
“วันบอกรัก”
“ฮะ?”
“เห็นในเน็ตว่ากัน” ยองแจยักไหล่ “แต่ก็ไม่รู้จริงไหม เขาบอกว่าถ้าสารภาพรักวันนี้ ก็จะครบร้อยกันที่คบกันตอนวันคริสต์มาสพอดี จริงเหรอ? ผมไม่เคยนับแฮะ”
“สนใจเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ”
“ก็ถ้าแฟนคลับชอบ เราก็ต้องรู้ ๆ ไว้บ้าง”
ฮอนชอลยิ้ม
“งั้นถ้าพี่บอกอะไรไปวันนี้ ก็ครบร้อยวันตอนวันคริสต์มาสพอดีเหรอ?”
มือที่กำลังเขี่ยของในจานชะงัก ยองแจกะพริบตาปริบ ๆ
“อะไรอะ? อย่าบอกนะว่าจะมาพูดอะไรแปลก ๆ …ไม่เอานะพี่ ก็รู้อยู่ว่าแบบนี้ดีแล้ว”
ฮอนชอลหลุดขำอีกรอบ “ไม่หรอกน่า ฉันรู้ว่านายไม่ชอบการผูกมัด”
ยองแจยิ้มเผล่ ก้มหน้าก้มตากินอีกรอบ
ฮอนชอลมองเสี้ยวหน้าใต้แสงสลัวที่ประดับภายในห้องอย่างเอ็นดู เด็กที่เขาเห็นมาตลอดเติบโตขึ้นมาก ดูดีขึ้นมากด้วย… สมเป็นไอดอลขึ้นมาก
“…ดังแล้วอย่าลืมพี่นะ”
“อะไรนะ?” ยองแจกะพริบตาปริบ ๆ แต่ฮอนชอลเพียงแค่ยกมือไปขยี้ผมสีเข้มเบา ๆ อย่างหมั่นไส้
ยองแจมุ่ยหน้า มองคนแก่กว่าที่ควานหาอะไรสักอย่าง แล้วยื่นให้เขาอย่างระมัดระวัง
“ของขวัญวันเกิด”
ฮอนชอลว่า
ยองแจรับมันมา กล่องใบเล็กห่อกระดาษสีเทา มัดด้วยเชือกเส้นเล็ก เขายกขึ้นเขย่าเบา ๆ ฟังเสียงแล้วคงเป็นเครื่องประดับ
“อะไรอะ?”
“เปิดดูเองสิ อย่าลืมใช้ด้วยนะ”
จริง ๆ แล้วยองแจมีเครื่องประดับเยอะมาก แต่ส่วนใหญ่ที่เขาใส่ก็เป็นของที่พี่ตรงหน้าให้นี่แหละ ก็เล่นให้เขาทุกโอกาสสำคัญเลยนี่นา
“เปลี่ยนจากของขวัญเป็นเขียนท่อนแร็ปอะไรงี้ไหมอะ?”
ฮอนชอลยิ้ม “อีกสักสี่ห้าปีค่อยว่ากันนะ”
“โธ่ พี่”
ยองแจแสร้งตัดพ้อขำ ๆ พิจารณากล่องในมือ ก่อนจะเก็บมันใส่กระเป๋าอย่างดี
“แล้วไม่มีเค้กเหรอ?”
“ลดความอ้วนอยู่ไม่ใช่เหรอ? กินไปเดี๋ยวก็อ้วนเป็นหมูหรอก”
“โอโห เดี๋ยวนี้พูดกันแบบนี้เหรอ?” ยองแจตาวาว “พี่ใจร้ายมาก แค่เค้กชิ้นเดียวก็ไม่มีให้ นี่วันเกิดผมนะ”
“งั้นเดี๋ยวพาไปกินข้างนอก” ฮอนชอลว่าอย่างใจเย็น “ที่นี่ไม่มีเค้กหรอก ตกลงไหม?”
“ได้” ยองแจรับคำทันที
พวกเขาจัดการกับอาหารตรงหน้าอีกนิดหน่อย พอเก็บของแล้วลุกขึ้นเตรียมจะออกจากร้าน ยองแจก็หยุดอีกคนไว้ก่อน
“พี่”
“อะไรเหรอ?”
“ขอเวลาแป๊บหนึ่งนะ”
ฮอนชอลยังไม่ทันจะถามว่าอะไร เด็กน้อยของเขาก็ชะโงกหน้ามา กดจูบเบา ๆ ที่มุมปากเขาอย่างระมัดระวัง แล้วผละออกอย่างรวดเร็ว
“ผมรักพี่นะ”
“…”
“ขอบคุณสำหรับของขวัญวันเกิดด้วย”
ฮอนชอลยกมือขึ้นลูบตรงที่โดนสัมผัสเบา ๆ
“…เล่นแบบนี้เลยเหรอ?”
“อะไรล่ะ?”
“นายจะไม่ให้พี่ตั้งตัวหน่อยเหรอ…”
“ไปกินเค้กกันได้แล้ว เร็ว ๆ เข้าาาา เดี๋ยวผมต้องเข้าตึกต่อนะ ไปเหอะะะะะ”
ฮอนชอลได้แต่ปล่อยให้ตัวเองโดนลากจูงไปเรื่อย มองแผ่นหลังของคนตัวเล็กกว่าโดยที่ได้แต่กลั้นยิ้มเพราะกลัวคนแถวนั้นเห็นแล้วหาว่าเขาเป็นบ้า
เอาเถอะ
วันเกิดน้องมันมีหนเดียวนี่นา ตามใจสักหน่อยก็ได้
END